ระบบเลขฐาน 2

ส่งต่อให้เพื่อนอ่าน :

เลขฐานสอง (อังกฤษ: binary numeral system) หมายถึง ระบบเลขที่มีสัญลักษณ์เพียงสองตัวคือ 0 (ศูนย์) กับ 1 (หนึ่ง) บางครั้งอาจหมายถึงการที่มีโอกาสเลือกได้เพียง 2 ทาง เช่น ปิดกับเปิด, ไม่ใช่กับใช่, เท็จกับจริง, ซ้ายกับขวา เป็นต้น

ถ้าแปลงค่าเลขฐานสิบ มาเป็นเลขฐานสอง จะได้ดังนี้

1 = 12
2 = 102
3 = 112
4 = 1002
5 = 1012
6 = 1102
7 = 1112
8 = 10002
9 = 10012
10 = 10102

 

ในปัจจุบันเลขฐานสองเป็นพื้นฐานในการทำงานของคอมพิวเตอร์ โดยนำเอาหลักการของเลขฐานสอง (สถานะไม่มีไฟฟ้า และ สถานะมีไฟฟ้า) มาใช้ในการสร้างไมโครโปรเซสเซอร์ที่มีหน่วยประมวลผลแบบ 32 หรือ 64 บิต หรือมากกว่านั้น ซึ่งสามารถเรียกได้ว่าเป็นการประมวลผลแบบดิจิทัล

การแปลงเลขฐาน 2

1. การแปลงเลขฐาน 2 เป็นฐาน 10
วิธีการแปลงเลขฐาน
– ใช้วิธีการคูณด้วยค่าประจำหลักของฐาน 2

– เริ่มจากน้อยที่สุดคือ 0 และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ (เริ่มจากขวาไปซ้าย โดยเริ่มจาก 0 , 1 , 2 และเพิ่มขึ้นครั้งละ 1)

(¨ x 2n-1 ) +…+(¨ x 22 ) + (¨ x 21 ) + (¨ x 20 )

ตัวอย่าง

1. แปลง 112 เป็นเลขฐาน 10

วิธีทำ 112 = (1×21)+ (1×20) = 2 + 1 = 3

2. แปลง 1102 เป็นเลขฐาน 10

วิธีทำ 1102 = (1×22)+ (1×21)+ (0x20) = 4 + 2 + 0 = 6

3. แปลง 11012 เป็นเลขฐาน 10

วิธีทำ 11012 = (1×23)+ (1×22)+ (0x21)+ (1×20) = 8 + 4 + 0 + 1 = 13

 

การแปลงเลขฐาน 10  เป็นฐาน  2

วิธีการแปลงเลขฐาน

– ใช้วิธีหารสั้นด้วยเลข 2

– นำเศษที่ได้มาเขียนลำดับจากล่างขึ้นบน

ตัวอย่าง

1. แปลง 8 เป็นเลขฐาน 2

วิธีทำ

2 ) 8        

2 ) 4                  |   เศษ 0

2 ) 2                  |   เศษ 0

2 ) 1                  |   เศษ 0

0                 |  เศษ 1

นำเศษที่ได้เขียนมาเขียนลำดับจากล่างขึ้นบน         จะได้             810           =             10002

ส่งต่อให้เพื่อนอ่าน :

แนวทางสร้างรายได้ด้วย Google AdSense จาก www.kruaof.com

1. เพิ่มบทความที่ตอบโจทย์การค้นหา เน้นบทความที่เกี่ยวข้องกับ "การสอนเทคโนโลยี", "เทคนิคการสอน", "การใช้สื่อดิจิทัล", และ "แผนการจัดการเรียนรู้" ใช้คำค้น (Keyword) ที่คนครูหรือผู้สนใจด้านการศึกษา ค้นหาบ่อย เช่น: ตัวอย่างแผนการสอน การใช้ Canva/PowerPoint ทำสื่อการสอน วิธีออกแบบ Infographic ใช้เครื่องมือเช่น Google Trends, Ubersuggest หรือ AnswerThePublic เพื่อหาไอเดียและคำค้นที่เหมาะสม 2....

วิธีการปกป้องข้อมูลส่วนตัว

การปกป้องข้อมูลส่วนตัวเป็นเรื่องสำคัญที่เราทุกคนต้องเรียนรู้ เพื่อป้องกันไม่ให้คนที่ไม่หวังดีนำข้อมูลของเราไปใช้ในทางที่ไม่ดี เรามีวิธีหลายอย่างในการปกป้องข้อมูลส่วนตัวของเรา วิธีการปกป้องข้อมูลส่วนตัว: ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวกับคนแปลกหน้า: ไม่บอกชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ หรือข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ ให้กับคนที่เราไม่รู้จัก ไม่นัดเจอคนที่เราคุยด้วยทางอินเทอร์เน็ต หากไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ปกครอง ระมัดระวังในการพูดคุยกับคนแปลกหน้าในเกมออนไลน์ หรือแอปพลิเคชันต่างๆ สร้างรหัสผ่านที่ปลอดภัย: ใช้รหัสผ่านที่คาดเดาได้ยาก โดยใช้ตัวอักษร ตัวเลข และสัญลักษณ์ผสมกัน ไม่ใช้รหัสผ่านเดียวกันในหลายบัญชี เก็บรักษารหัสผ่านเป็นความลับ ไม่บอกให้ใครรู้ ระมัดระวังในการใช้งานอินเทอร์เน็ต: ไม่คลิกลิงก์ หรือเปิดไฟล์แนบจากอีเมล หรือข้อความที่ไม่รู้จัก ไม่ดาวน์โหลดโปรแกรม หรือแอปพลิเคชันจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ ตรวจสอบการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวในโซเชียลมีเดีย และแอปพลิเคชันต่างๆ บอกผู้ปกครองหรือคุณครู เมื่อเจอสิ่งผิดปกติ: หากมีคนแปลกหน้าทักมา หรือขอข้อมูลส่วนตัวของเรา หากเจอเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม หรือน่ากลัวบนอินเทอร์เน็ต หากถูกกลั่นแกล้ง...

ทำไมเราต้องปกป้องข้อมูลส่วนตัว?

ข้อมูลส่วนตัวของเรานั้นสำคัญมาก เหมือนกับกุญแจที่ใช้เปิดบ้าน ถ้ามีคนที่ไม่หวังดีได้กุญแจไป เขาอาจจะเข้ามาในบ้านของเราและทำสิ่งที่ไม่ดีได้ ข้อมูลส่วนตัวก็เช่นกัน ถ้าคนที่ไม่หวังดีได้ข้อมูลส่วนตัวของเราไป เขาอาจจะนำไปใช้ในทางที่ไม่ดี ทำให้เราเดือดร้อนได้ เหตุผลที่เราต้องปกป้องข้อมูลส่วนตัว: ป้องกันการถูกแอบอ้าง: คนที่ไม่หวังดีอาจนำข้อมูลส่วนตัวของเราไปใช้แอบอ้างเป็นตัวเรา เช่น สมัครบัญชีออนไลน์ หรือทำธุรกรรมต่างๆ ในชื่อของเรา ทำให้เราต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เราไม่ได้ทำ ป้องกันการถูกหลอกลวง: คนที่ไม่หวังดีอาจใช้ข้อมูลส่วนตัวของเราในการหลอกลวง เช่น ส่งอีเมลหรือข้อความหลอกลวงให้เราโอนเงิน หรือให้ข้อมูลส่วนตัวเพิ่มเติม ป้องกันการถูกกลั่นแกล้ง: คนที่ไม่หวังดีอาจใช้ข้อมูลส่วนตัวของเราในการกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์ เช่น เผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวของเราให้คนอื่นรู้ หรือใช้ข้อมูลส่วนตัวของเราในการสร้างข่าวลือที่ไม่ดี ป้องกันการถูกขโมยข้อมูล: คนที่ไม่หวังดีอาจขโมยข้อมูลส่วนตัวของเราไปขาย หรือนำไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมาย ป้องกันอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน: ข้อมูลส่วนตัวบางอย่างเช่น...

ข้อมูลส่วนตัวคืออะไร?

ข้อมูลส่วนตัว คือ ข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนของเราได้ ข้อมูลเหล่านี้สำคัญมาก เพราะหากมีคนรู้ข้อมูลส่วนตัวของเรา อาจนำไปใช้ในทางที่ไม่ดีได้ ตัวอย่างข้อมูลส่วนตัว: ชื่อ-นามสกุล: ชื่อจริงและนามสกุลของเรา ที่อยู่: บ้านเลขที่ ถนน ตำบล อำเภอ จังหวัด รหัสไปรษณีย์ เบอร์โทรศัพท์: เบอร์โทรศัพท์บ้านหรือเบอร์โทรศัพท์มือถือของเรา วันเดือนปีเกิด: วัน เดือน และปีที่เราเกิด รูปภาพ: รูปถ่ายของเรา ข้อมูลโรงเรียน: ชื่อโรงเรียน ชั้นเรียน...

About ครูออฟ 1712 Articles
https://www.kruaof.com