เรียนเก่งได้ด้วยตัวเอง แบบไม่ง้อคอร์สเรียน

ส่งต่อให้เพื่อนอ่าน :

วันนี้จะมาสรุปแบ่งปันเทคนิค เรียนเก่งด้วยตนเอง แบบไม่ต้องลงคอร์สเรียนพิเศษ หรือติว เพียงแค่น้องมีวินัย ความขยัน ก็สามารถเรียนเก่งได้ แต่ทั้งนี้การลงคอร์สเรียน ก็มีประโยชน์ เพราะเป็นทางลัดในการเตรียมตัวสอบที่ดีอีกวิธีหนึ่ง แต่วันนี้พี่จะมาแบ่งปันเทคนิคเตรียมสอบด้วยตนเอง แบบไม่ต้องลงคอร์สเรียน

1. ตั้งใจเรียนในห้องเรียน

หากอยากเรียนเก่ง ก่อนอื่นเลยต้องตั้งใจเรียนในห้องเรียน สงสัยตรงไหนให้น้องถามครูทันที อย่าปล่อยเรื่องที่สงสัยผ่านไป เพราะอาจจะส่งผลกระทบต่อหัวข้อถัดไปที่น้องกำลังเรียนอยู่ด้วยก็ได้

2. อ่านหนังสือ ทบทวนเนื้อหาที่เรียนเสมอ

โดยพี่ขอแนะนำวิธีอ่านหนังสือ 4 ขั้นตอนที่ควรทำเป็นประจำ

  • เมื่ออ่านจบหนึ่งหัวข้อ ให้สรุปให้ได้ว่าหัวข้อนี้มีใจความสำคัญอย่างไร
  • ไฮไลท์จุดที่สำคัญ การไฮไลท์ก็ช่วยเรื่องความจำมาก
  • เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจก่อน เพื่อเป็นกำลังให้น้อง อยากอ่านหัวข้อถัดไป ไม่ควรเริ่มอ่านหัวข้อที่ยาก เพราะจะทำให้น้องท้อ บ้างครั้งถึงขั้นเลิกอ่านหนังสือไปเลย
  • อ่านหนังสือให้จบ 3 รอบเป็นอย่างน้อยก็สอบ

3. ฝึกทำข้อสอบ

อันนี้สำคัญมาก เเละเป็นหัวใจที่คอร์สเรียนกวดวิชาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น คอร์ส IELTS , คอร์ส TOEIC , คอร์ส TOEFL , คอร์ส SAT , คอร์ส GED และคอร์สอื่นๆ ในโรงเรียนกวดวิชาให้ความสำคัญ

เพราะหัวใจการทำคะแนนได้ดีคือ การฝึกทำข้อสอบ ยิ่งทำเยอะ ทำหลายรอบ ยิ่งจะทำให้น้องได้คะแนนดีขึ้น ซึ่งพี่แนะนำน้องควรทำ ข้อสอบ อย่างน้อย 10 ชุด / ชุดละ 3 รอบ เพื่อฝึกความคุ้นเคยในการทำข้อสอบ แล้วขณะทำควรจับเวลาสอบเหมือนจริงด้วย

4. เรียนออนไลน์ฟรี ได้จาก Youtube

ในปัจจุบันการเรียนเปิดโอกาสมากกว่าเมื่อ 10 ปี เพราะเดี่ยวนี้น้องไม่จำเป็นต้องไปเสียเงินลงคอร์สเรียนตามกวดวิชาต่างๆ เหมือนยุคเมื่อก่อน เช่น อยาก ติว CU-ATS , ติว IB , ติว IGCSE , ติว KU-EPT , ติว SMART-II , ติว TGAT หรือวิชาอื่นๆ ก็สามารถเรียนฟรี ได้จาก Youtube

5. ติวกับเพื่อน

การติวกับเพื่อนจะช่วยเพิ่มความเข้าใจในวิชานั้น มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะหากน้องเป็นคนสอนเพื่อนได้ แล้วเพื่อนเข้าใจในสิ่งที่น้องสื่อสารออกไป นั้นแสดงว่าน้องมีความเข้าใจวิชานั้น ในระดับที่ดี ทีเดียว เพราะฉะนั้น หากน้องกำลัง ติว CU-BEST , ติว ACT  ,ติว A-Level , ติว BMAT , ติว CU-AAT หรือวิชาอื่นๆ ลองใช้วิธีสอนเพื่อนดู แล้วจะรู้เลยถึงความเข้าใจตนเองในวิชานั้น

6. ลองดูว่าสไตล์การเรียนรู้ของน้องเป็นแบบไหน

สำหรับการเรียนรู้ของแต่ละคนจะแตกต่างกันไป เช่น บ้างคนเรียนรู้ด้วยภาพ เสียง การอ่าน การเขียน หรือผ่านการเขียนเคลื่อนไหว น้องก็ต้องพยายามลองดูว่าตัวเองนั้นเรียนรู้แบบไหน เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด วิธีไหนที่ใช้แล้วรู้สึกว่า เข้าใจเนื้อหาเร็ว ก็ควรใช้วิธีนั้น ไม่ควรยึดติดวิธีใด วิธีหนึ่งเช่น บ้างคนดูวีดีโอสอนแล้วไม่ค่อยเข้าใจ ต้องไปติวกับเพื่อนถึงเข้าใจ ส่วนบ้างคนติวกับเพื่อนแล้วไม่ค่อยได้ ต้องอ่านเอง ตรงนี้น้องรู้จักตนเอง แล้วจะทำให้การอ่านหนังสือมีคุณภาพขึ้น

7. พักผ่อน

การพักผ่อนเป็นสิ่งสำคัญ น้องไม่ควรหักโหมหรืออดหลับ อดนอน จนลืมพักผ่อน เพราะการพักผ่อนไม่เพียงพอแล้วฝืนอ่านหนังสือต่อไป นอกจากจะทำให้อ่านแล้วไม่จำแล้ว ยังทำลายสุขภาพ ส่งผลเสียระยะยาว

8. กินอาหารที่ประโยชน์

สารเคมีในสมองอย่างเซโรโทนิน (Serotonin) มีหน้าที่ช่วยเปลี่ยนความจำระยะสั้นให้พัฒนาไปเป็นความจำระยะยาวได้ โดยจะหลั่งออกมาหลังจากที่เราตื่นนอนตอนเช้า ช่วงเวลานี้จึงเหมาะมากที่จะทบทวนบทเรียน และควรกินกล้วยเป็นอาหารเช้า เพราะในกล้วยมีสารทริปโตเฟน (Tryptophan) และวิตามินบี 6 ที่ช่วยสร้างเซโรโทนินให้เพิ่มมากขึ้น ส่วนในตอนกลางวันหรือช่วงบ่าย ควรกินช็อกโกแลตไปพร้อม ๆ กับการท่องจำ เพราะในช็อกโกแลตมีสารทีโอโบรมีน (Theobromine) ที่ช่วยเพิ่มความจำและสมาธิ แถมน้ำตาลในช็อกโกแลตยังช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายและช่วยคลายความเหนื่อยล้าของสมองได้ด้วย ใครที่ทบทวนบทเรียนช่วงบ่ายแล้วไม่ค่อยมีสมาธิแนะนำให้ลองใช้วิธีนี้ดู 

สำหรับ 8 ข้อนี้เป็นวิธีเตรียมตัวสอบด้วยตนเอง แบบไม่ต้องลง คอร์ส SAT , คอร์ส GMAT , คอร์ส GRE , คอร์ส CU-TEP , คอร์ส TU-GET หรือคอร์สอื่นๆ ที่น้องต้องสอบเลย แต่หากน้องคนไหน ไม่ค่อยมีเวลา หรืออยากได้ตัวช่วย ให้คนสรุปเนื้อหาให้การลงคอร์สเรียนกวดวิชาก็เป็นอีกตัวหนึ่งที่น่าสนใจ

ข้อมูลเพิ่มเติม สำหรับคนสนใจลงคอร์สต่างๆ

https://course.chulatutor.com/p/toeic-online

https://course.chulatutor.com/p/ielts-online

https://course.chulatutor.com/p/tu-get-online

https://course.chulatutor.com/p/sat-math-online

https://course.chulatutor.com/p/sat-reading-online

https://course.chulatutor.com/p/sat-writing-online

https://course.chulatutor.com/p/toefl-ibt-online

https://course.chulatutor.com/p/gre-online

https://course.chulatutor.com/p/gmat-online

https://course.chulatutor.com/p/tgat-online

ส่งต่อให้เพื่อนอ่าน :

หน่วยที่ 1 การออกแบบวิธีการแก้ปัญหา ป.6

  ว 4.2 ป.6/1 ตอนที่ 1.1 การออกแบบวิธีการแก้ไขปัญหา  1.1.1 การแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอน 1.1.2 การใช้เหตุผลเชิงตรรกะ 1.1.3 แนวคิดของการทำงานแบบวนซ้ำ และเงื่อนไขคิดของการทำงานแบบวนซ้ำ และเงื่อนไข 1.1.4 กระบวนการทำงานที่มีการทำงานแบบวนซ้ำหรือเงื่อนไข 1.1.5 ตัวอย่างปัญหา สาระสำคัญ การออกแบบวิธีการแก้ปัญหา เป็นทักษะสำคัญที่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ควรมี เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ...

หน่วยที่ 2 การเขียนโปรแกรมเพื่อแก้ปัญหา ป.6

ขั้นตอนการศึกษาประจำหน่วยที่ 2 การเขียนโปรแกรมเพื่อแก้ปัญหา ภาคเรียนที่ 1 ใช้เวลาเรียน 14 ชั่วโมง ขั้นตอนที่ 1 ให้นักเรียนศึกษาเนื้อหารายละเอียดในเอกสารประกอบการสอน วิชาวิทยาการคำนวณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หรือ จากเว็บไซต์ www.kruaof.com ขั้นตอนที่ 2 ทำแบบทดสอบหลังเรียน ตามตัวชี้วัด นักเรียนต้องทำแบบทดสอบผ่านทุกตัว ตัวชี้วัด ตอนที่ 2.1 การออกแบบโปรแกรม 2.1.1 การออกแบบโปรแกรมด้วยการเขียนเป็นข้อความ 2.1.2 การออกแบบโปรแกรมด้วยผังงาน ตอนที่...

การต่อต้านการทุจริตในฐานะพลเมือง: พลังเล็กๆ ที่เปลี่ยนแปลงโลกได้

การต่อต้านการทุจริต ไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลยนะทุกคน แม้ว่าเราจะเป็นเด็กตัวเล็กๆ แต่เราก็มีส่วนร่วมในการสร้างสังคมที่ดีได้เช่นกัน การเป็นพลเมืองที่ดีหมายถึงการรู้จักทำสิ่งที่ถูกต้องและช่วยกันต่อต้านสิ่งที่ไม่ดี ไม่ว่าเราจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม ทำไมเราต้องต่อต้านการทุจริต? เพื่อให้สังคมน่าอยู่: การทุจริตทำให้สังคมไม่เป็นธรรม คนดีเสียเปรียบ คนไม่ดีได้เปรียบ การต่อต้านการทุจริตจะช่วยให้สังคมของเรามีความยุติธรรมมากขึ้น เพื่ออนาคตของประเทศ: การทุจริตจะทำให้ประเทศชาติเสียหาย พัฒนาช้าลง การต่อต้านการทุจริตจะช่วยให้ประเทศของเราเจริญก้าวหน้า เพื่อตัวเราเอง: การเป็นคนดี ไม่ร่วมมือกับการกระทำที่ผิด จะทำให้เรามีความสุขใจและเป็นที่ยอมรับของสังคม เราจะต่อต้านการทุจริตได้อย่างไรบ้าง? แจ้งเบาะแส: ถ้าเราเห็นใครทำผิดกฎหมาย หรือทำอะไรที่ไม่ถูกต้อง เราสามารถแจ้งให้ผู้ใหญ่ที่เราไว้วางใจทราบ หรือแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ไม่ร่วมมือกับการกระทำที่ผิดกฎหมาย:...

การสร้างสังคมที่ดี: ปลูกฝังเด็กให้เป็นพลเมืองดี

การสร้างสังคมที่ดีเริ่มต้นจากการปลูกฝังให้เด็กๆ มีจิตสำนึกที่ดีและเข้าใจถึงความสำคัญของการอยู่ร่วมกันในสังคมค่ะ การสอนให้เด็กๆ เรียนรู้หลักการสำคัญต่างๆ เช่น การเคารพซึ่งกันและกัน การอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข และการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน จะเป็นการเตรียมความพร้อมให้พวกเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพและสามารถสร้างสรรค์สังคมที่ดีได้ในอนาคต หลักการสำคัญในการสร้างสังคมที่ดีที่เด็กควรเรียนรู้ การเคารพซึ่งกันและกัน: หมายถึงการให้เกียรติผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน ครู ผู้ใหญ่ หรือคนในสังคม โดยไม่แบ่งแยก เชื้อชาติ ศาสนา เพศ หรือฐานะทางสังคม การเคารพผู้อื่นจะช่วยให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีและสร้างสรรค์ในสังคม การอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข:...

About ครูออฟ 1546 Articles
https://www.kruaof.com