หลักการเติม ing ใน continuos tense 😬

ส่งต่อให้เพื่อนอ่าน :

1. กริยาที่มี…

  • สระเสียงสั้นตัวเดียว  ได้แก่ a (แอะ), e (เอะ), i (อิ), o (เอาะ), u  (อุ, อะ)
  • และมีตัวสะกดตัวเดียว
    ให้เพิ่มตัวสะกดอีกหนึ่งตัว แล้วค่อยเติม ing เช่น
    • pat  (แพ็ท) >> patting ตบเบาๆ
    • get (เก็ท) >> getting ได้รับ
    • sit (ซิท)  >> sitting นั่ง
    • swim (สวิม) >> swimming ว่ายน้ำ
    • stop (สต็อพ) >> stopping หยุด
    • shop (ช็อพ) >> shopping จ่ายตลาด
    • run (รัน) >> running วิ่ง
    • cut (คัท) >> cutting ตัด
    • put (พุท) >> putting วาง

2. กริยาที่ลงท้ายด้วย e ให้ตัด e ทิ้ง แล้วเติม ing

  • ride >> riding ขี่
  • drive >> driving ขับ
  • give >> giving ให้
  • come >> coming มา
  • make >> making ทำ
  • take >> taking เอา
  • write >> writing เขียน
  • dance >> dancing เต้นรำ

แต่…กริยาที่ลงท้ายด้วย ee ให้เติม ing ได้เลย ห้ามตัด e ทิ้ง นะครับ จำให้แม่น

  • see >> seeing พบ
  • flee >> fleeing หนี

3. กริยาที่ลงท้ายด้วย ie ให้เปลี่ยน ie เป็น y แล้วเติม ing

  • die >> dying ตาย
  • lie >> lying นอน
  • tie >> tying มัด
  • vie >> vying ลงแข่ง

4. (สำหรับคนที่เก่งขึ้นมาหน่อย) กริยาที่มีสองพยางค์ขึ้นไป ถ้า stress (เน้นเสียง) พยางค์หลัง  ให้เพิ่มตัวสะกดอีกหนึ่งตัว แล้วเติม ing แต่ถ้า stress พยางค์หน้า ไม่ต้องเติมตัวสะกด

stress พยางค์หน้า

  • visit >> visiting
  • deliver >> delivering

Stress พยางค์หลัง

  • admit >> admitting
  • refer >> referring

5. นอกนั้นเติม ing ได้เลยทันที

  • drink >> drinking ดื่ม
  • fight >> fighting ต่อสู้
  • fall >> falling ตก
  • ring >> ringing สั่น
  • wash >> washing ล้าง
  • sleep >> sleeping  นอนหลับ
  • look >> looking มอง
  • eat >> eating กิน
  • speak >> speaking พูด
  • break >> breaking แตก
  • meet >> meeting พบ
  • say >> saying พูด
  • see >> seeing พบ เห็น
  • fly >> flying บิน
  • buy >> buying ซื้อ
  • go >> going ไป
  • grow >> growing ปลูก
  • do >> doing ทำ
ส่งต่อให้เพื่อนอ่าน :

การสร้างสื่อการเรียนรู้แบบภาพเคลื่อนไหว

วัตถุประสงค์: เพื่อให้ผู้เรียนสามารถสร้างสื่อการเรียนรู้แบบภาพเคลื่อนไหวได้อย่างสร้างสรรค์ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถนำเสนอเนื้อหาการเรียนรู้ได้อย่างน่าสนใจและเข้าใจง่าย เพื่อให้ผู้เรียนสามารถใช้โปรแกรม PowerPoint ในการสร้างสื่อการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื้อหา: การวางแผนสื่อการเรียนรู้: การกำหนดหัวข้อและเนื้อหา: แนะนำให้นักเรียนเลือกหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับบทเรียนหรือเนื้อหาที่ต้องการนำเสนอ แนะนำให้นักเรียนรวบรวมข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วน แนะนำให้นักเรียนสรุปข้อมูลให้กระชับและเข้าใจง่าย การออกแบบสื่อการเรียนรู้: แนะนำให้นักเรียนออกแบบสื่อการเรียนรู้ให้มีสีสันสดใสและน่าสนใจ แนะนำให้นักเรียนใช้ภาพประกอบที่สื่อความหมายและเข้ากับเนื้อหา แนะนำให้นักเรียนใช้ข้อความที่กระชับและอ่านง่าย แนะนำการใช้กราฟฟิกต่างๆเข้ามาช่วย เช่น การใช้ Icon การกำหนดลำดับการนำเสนอ: แนะนำให้นักเรียนกำหนดลำดับการนำเสนอให้เป็นไปตามลำดับของเนื้อหา แนะนำให้นักเรียนกำหนดเวลาในการนำเสนอแต่ละสไลด์ให้เหมาะสม การสร้างภาพเคลื่อนไหว: การใช้เอฟเฟ็กต์ภาพเคลื่อนไหว: แนะนำให้นักเรียนใช้เอฟเฟ็กต์ภาพเคลื่อนไหวเพื่อเน้นจุดสำคัญของเนื้อหา แนะนำให้นักเรียนใช้เอฟเฟ็กต์ภาพเคลื่อนไหวให้เหมาะสมกับเนื้อหาและการนำเสนอ แนะนำการใช้เอฟเฟ็กต์เช่น การปรากฏ(Entrance), การเน้น(Emphasis) และการออก(Exit) การกำหนดลำดับการเคลื่อนไหวและระยะเวลา: แนะนำให้นักเรียนกำหนดลำดับการเคลื่อนไหวของวัตถุต่างๆ บนสไลด์ แนะนำให้นักเรียนกำหนดระยะเวลาในการเคลื่อนไหวให้เหมาะสมกับความเร็วในการอ่านและทำความเข้าใจของผู้ดู การใส่เสียงประกอบ: แนะนำให้นักเรียนใส่เสียงประกอบ เช่น เสียงดนตรี, เสียงเอฟเฟ็กต์, เสียงบรรยาย แนะนำให้นักเรียนเลือกเสียงประกอบที่เหมาะสมกับเนื้อหาและอารมณ์ของการนำเสนอ เคล็ดลับการสร้างสื่อการเรียนรู้แบบภาพเคลื่อนไหว: ใช้ภาพประกอบที่สื่อความหมาย: แนะนำให้นักเรียนใช้ภาพประกอบที่สื่อความหมายและเข้ากับเนื้อหา ใช้เอฟเฟ็กต์ภาพเคลื่อนไหวอย่างเหมาะสม: แนะนำให้นักเรียนใช้เอฟเฟ็กต์ภาพเคลื่อนไหวอย่างเหมาะสม เพื่อไม่ให้รบกวนการนำเสนอ ใช้เสียงประกอบที่น่าสนใจ: แนะนำให้นักเรียนใช้เสียงประกอบที่น่าสนใจและเข้ากับอารมณ์ของการนำเสนอ ทดสอบและปรับปรุง: แนะนำให้นักเรียนทดสอบและปรับปรุงผลงาน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด กิจกรรม: ให้นักเรียนเลือกหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับบทเรียน ให้นักเรียนรวบรวมข้อมูลและออกแบบสื่อการเรียนรู้ ให้นักเรียนสร้างภาพเคลื่อนไหวประกอบสื่อการเรียนรู้ โดยใช้โปรแกรม PowerPoint ให้นักเรียนนำเสนอผลงานของตนเอง...

การนำเสนอข้อมูลอย่างง่ายด้วยภาพเคลื่อนไหว

วัตถุประสงค์: เพื่อให้ผู้เรียนสามารถนำเสนอข้อมูลอย่างง่ายด้วยภาพเคลื่อนไหวได้อย่างสร้างสรรค์ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถใช้โปรแกรม PowerPoint ในการนำเสนอข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถสื่อสารข้อมูลได้อย่างชัดเจนและน่าสนใจ เนื้อหา: การวางแผนการนำเสนอ: การกำหนดหัวข้อและเนื้อหา: แนะนำให้นักเรียนเลือกหัวข้อที่น่าสนใจและเหมาะสมกับวัย แนะนำให้นักเรียนรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ แนะนำให้นักเรียนสรุปข้อมูลให้กระชับและเข้าใจง่าย การออกแบบสไลด์: แนะนำให้นักเรียนออกแบบสไลด์ให้มีสีสันสดใสและน่าสนใจ แนะนำให้นักเรียนใช้ภาพประกอบที่สื่อความหมายและเข้ากับเนื้อหา แนะนำให้นักเรียนใช้ข้อความที่กระชับและอ่านง่าย การกำหนดลำดับการนำเสนอ: แนะนำให้นักเรียนกำหนดลำดับการนำเสนอให้เป็นไปตามลำดับของเนื้อหา แนะนำให้นักเรียนกำหนดเวลาในการนำเสนอแต่ละสไลด์ให้เหมาะสม การสร้างภาพเคลื่อนไหว: การใช้เอฟเฟ็กต์ภาพเคลื่อนไหว: แนะนำให้นักเรียนใช้เอฟเฟ็กต์ภาพเคลื่อนไหวเพื่อเน้นจุดสำคัญของข้อมูล แนะนำให้นักเรียนใช้เอฟเฟ็กต์ภาพเคลื่อนไหวให้เหมาะสมกับเนื้อหาและการนำเสนอ แนะนำการใช้เอฟเฟ็กต์เช่น การปรากฏ(Entrance), การเน้น(Emphasis) และการออก(Exit) การกำหนดลำดับการเคลื่อนไหวและระยะเวลา: แนะนำให้นักเรียนกำหนดลำดับการเคลื่อนไหวของวัตถุต่างๆ บนสไลด์ แนะนำให้นักเรียนกำหนดระยะเวลาในการเคลื่อนไหวให้เหมาะสมกับความเร็วในการอ่านและทำความเข้าใจของผู้ดู การใส่เสียงประกอบ: แนะนำให้นักเรียนใส่เสียงประกอบ เช่น เสียงดนตรี, เสียงเอฟเฟ็กต์, เสียงบรรยาย แนะนำให้นักเรียนเลือกเสียงประกอบที่เหมาะสมกับเนื้อหาและอารมณ์ของการนำเสนอ เคล็ดลับการนำเสนอข้อมูลด้วยภาพเคลื่อนไหว: ใช้ภาพประกอบที่สื่อความหมาย: แนะนำให้นักเรียนใช้ภาพประกอบที่สื่อความหมายและเข้ากับเนื้อหา ใช้เอฟเฟ็กต์ภาพเคลื่อนไหวอย่างเหมาะสม: แนะนำให้นักเรียนใช้เอฟเฟ็กต์ภาพเคลื่อนไหวอย่างเหมาะสม เพื่อไม่ให้รบกวนการนำเสนอ ใช้เสียงประกอบที่น่าสนใจ: แนะนำให้นักเรียนใช้เสียงประกอบที่น่าสนใจและเข้ากับอารมณ์ของการนำเสนอ ฝึกซ้อมการนำเสนอ: แนะนำให้นักเรียนฝึกซ้อมการนำเสนอหลายๆ ครั้ง เพื่อให้เกิดความมั่นใจและนำเสนอได้อย่างเป็นธรรมชาติ กิจกรรม: ให้นักเรียนเลือกหัวข้อที่ตนเองสนใจ ให้นักเรียนรวบรวมข้อมูลและออกแบบสไลด์นำเสนอ ให้นักเรียนสร้างภาพเคลื่อนไหวประกอบการนำเสนอ โดยใช้โปรแกรม PowerPoint ให้นักเรียนนำเสนอผลงานของตนเอง...

การสร้างเรื่องราวสั้นๆ หรือนิทานประกอบภาพเคลื่อนไหว

วัตถุประสงค์: เพื่อให้ผู้เรียนสามารถวางแผนและสร้างเรื่องราวสั้นๆ หรือนิทานได้อย่างสร้างสรรค์ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถนำเสนอเรื่องราวด้วยภาพเคลื่อนไหวได้อย่างน่าสนใจ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถใช้โปรแกรม PowerPoint ในการสร้างสื่อการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื้อหา: การวางแผนเรื่องราว: การเลือกหัวข้อหรือนิทาน: แนะนำให้นักเรียนเลือกหัวข้อที่ตนเองสนใจ หรือนิทานที่ชื่นชอบ แนะนำให้นักเรียนพิจารณาเนื้อหาที่เหมาะสมกับวัยและระดับความเข้าใจของตนเอง การเขียนบท: แนะนำให้นักเรียนเขียนบทสรุปเรื่องราว โดยแบ่งเป็นฉากต่างๆ แนะนำให้นักเรียนเขียนบทสนทนาหรือคำบรรยายประกอบภาพ การออกแบบตัวละครและฉาก: แนะนำให้นักเรียนออกแบบตัวละครและฉากให้มีเอกลักษณ์และน่าสนใจ แนะนำให้นักเรียนใช้สีสันและรูปทรงที่เหมาะสมกับเนื้อหา การสร้างภาพเคลื่อนไหว: การใช้โปรแกรม PowerPoint: แนะนำให้นักเรียนใช้โปรแกรม PowerPoint ในการสร้างภาพประกอบและภาพเคลื่อนไหว แนะนำให้นักเรียนใช้เครื่องมือต่างๆ ในโปรแกรม เช่น กล่องข้อความ, รูปภาพ, รูปร่าง, เอฟเฟ็กต์ภาพเคลื่อนไหว การกำหนดลำดับการเคลื่อนไหว: แนะนำให้นักเรียนกำหนดลำดับการเคลื่อนไหวของตัวละครและวัตถุต่างๆ แนะนำให้นักเรียนกำหนดระยะเวลาในการเคลื่อนไหวให้เหมาะสมกับเนื้อหา การใส่เสียงประกอบ: แนะนำให้นักเรียนใส่เสียงประกอบ เช่น เสียงดนตรี, เสียงเอฟเฟ็กต์, เสียงบรรยาย แนะนำให้นักเรียนเลือกเสียงประกอบที่เหมาะสมกับเนื้อหาและอารมณ์ของเรื่องราว เคล็ดลับการสร้างเรื่องราวประกอบภาพเคลื่อนไหว: ใช้ภาพประกอบที่สื่อความหมาย: แนะนำให้นักเรียนใช้ภาพประกอบที่สื่อความหมายและเข้ากับเนื้อหา ใช้เอฟเฟ็กต์ภาพเคลื่อนไหวอย่างเหมาะสม: แนะนำให้นักเรียนใช้เอฟเฟ็กต์ภาพเคลื่อนไหวอย่างเหมาะสม เพื่อไม่ให้รบกวนการนำเสนอ ใช้เสียงประกอบที่น่าสนใจ: แนะนำให้นักเรียนใช้เสียงประกอบที่น่าสนใจและเข้ากับอารมณ์ของเรื่องราว ทดสอบและปรับปรุง: แนะนำให้นักเรียนทดสอบและปรับปรุงผลงาน...

การสร้างวีดีโอจากสไลด์

วัตถุประสงค์: เพื่อให้ผู้เรียนสามารถแปลงสไลด์ PowerPoint เป็นไฟล์วีดีโอได้ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถกำหนดคุณภาพและรูปแบบของไฟล์วีดีโอได้ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถนำเสนอผลงานในรูปแบบวีดีโอได้อย่างสร้างสรรค์ เนื้อหา: ขั้นตอนการสร้างวีดีโอจากสไลด์: การบันทึกงานนำเสนอ: อธิบายถึงความสำคัญของการบันทึกงานนำเสนอ PowerPoint ก่อนเริ่มการสร้างวีดีโอ เพื่อป้องกันการสูญหายของข้อมูล การเลือกรูปแบบวีดีโอ: อธิบายถึงรูปแบบไฟล์วีดีโอที่ PowerPoint รองรับ เช่น MP4, WMV แนะนำรูปแบบไฟล์ MP4 ซึ่งเป็นรูปแบบที่นิยมและรองรับการใช้งานบนอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างกว้างขวาง การกำหนดคุณภาพวีดีโอ: อธิบายถึงตัวเลือกคุณภาพวีดีโอ เช่น Ultra HD (4K), Full HD...

About ครูออฟ 1683 Articles
https://www.kruaof.com