การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์เบื้องต้น

ส่งต่อให้เพื่อนอ่าน :

คอมพิวเตอร์มีการทำงานตามขั้นตอน มีความสัมพันธ์กับการเขียนโปรแกรมที่เป็นการสร้างลำดับคำสั่ง โดยการเขียนโปรแกรมให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามที่ผู้เขียนโปรแกรมออกแบบไว้ หากมีข้อผิดพลาด ให้ตรวจสอบการทำงานทีละคำสั่ง เมื่อพบจุดที่ทำให้ผลลัพธ์ไม่ถูกต้อง ให้ทำการแก้ไขจนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้อง

  • การเขียนโปรแกรมดังกล่าว นักเรียนคิดว่าเกี่ยวกับเรื่องอะไร
  • มีการออกแบบการทำงานในลักษณะใด
  • ขั้นตอนการออกแบบดังกล่าวมีกี่ขั้นตอน
  • การออกแบบดังกล่าวมีลักษณะอย่างไร
  • การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์คืออะไร
  • การเขียนคำสั่งให้โปรแกรมทำงานทำได้กี่วิธี

สังเกตภาพและวิเคราะห์การเดินทางของผึ้งไปรับนํ้าหวาน จากนั้นนักเรียนแต่ละกลุ่มเรียงลำดับการเขียนโปรแกรมให้ผึ้งเดินไปรับนํ้าหวานโดยสามารถเลือกบล็อกคำสั่งซํ้ากันได้ ดังตัวอย่าง

  • การเขียนโปรแกรมสั่งงานให้ผึ้งเดินไปรับนํ้าหวาน หากวางลำดับการทำงานสลับที่ การทำงานของผึ้งจะเป็นอย่างไร

นักเรียนปฏิบัติกิจกรรม ตามหานํ้าหวาน โดยออกแบบและเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ตามขั้นตอน ดังนี้

1. เปิดเว็บไซต์ https://code.org หลังจากเข้าสู่เว็บไซต์ แล้วกดเลือกภาษาที่ใช้

2. เลือกหมวดนักเรียน

3. คลิกเมาส์เลือกคอร์ส 2

4. คลิกเมาส์เลือกบทเรียนลำดับที่ 13 ผึ้ง: Conditionals เพื่อฝึกโปรแกรมแบบทำซํ้า แล้วคลิกเมาส์เลือกข้อ 1

5. ขั้นตอนของบทเรียนนี้จะเป็นการฝึกคิดอัลกอริทึมสำหรับเขียนโปรแกรมเพื่อสั่งงานให้ผึ้งเดินไปรับนํ้าหวาน เมื่อเข้าไปในบทเรียน โปรแกรมจะแสดงหน้าจอ

จะพบว่าหากผึ้งต้องการรับนํ้าหวานให้หมด ผึ้งจะต้องเดินไปข้างหน้า 5 ครั้ง แล้วรับนํ้าหวาน 1 ครั้ง จากนั้นเลี้ยวขวาแล้วเดินหน้า 1 ครั้ง แล้วรับนํ้าหวาน 3 ครั้ง

6. จากอัลกอริทึมการควบคุมผึ้ง เราสามารถเขียนโปรแกรมโดยการลากบล็อกคำสั่งมาวางบนพื้นที่ทำงาน ซึ่งปฏิบัติตามขั้นตอน ดังนี้

7. เมื่อเขียนโปรแกรมโดยการลากบล็อกคำสั่งมาวางตามที่ออกแบบไว้เรียบร้อยแล้วให้คลิกเมาส์ที่ปุ่ม เริ่ม จะพบว่าโปรแกรมจะทำงาน โดยผึ้งเดินไปรับนํ้าหวานตามขั้นตอนโปรแกรม จากนั้นโปรแกรมจะแจ้งว่าการทำงานในขั้นตอนนี้เสร็จสิ้น

8. หากคลิกเมาส์ที่ปุ่ม แสดงโค้ด จะพบว่าหน้าจอจะแสดงรหัสคำสั่งที่ใช้ควบคุมการทำงานของผึ้งให้เห็น ซึ่งเป็นคำสั่งสำหรับการเขียนโปรแกรมด้วยภาษาระดับสูงซึ่งเป็นภาษาที่ใกล้เคียงกับภาษาของมนุษย์ แต่การเขียนโปรแกรมเบื้องต้นเราจะยังไม่สนใจโค้ดที่เกิดขึ้นเหล่านี้ก็ได้

ส่งต่อให้เพื่อนอ่าน :

วิธีการสร้างนิสัยการใช้โซเชียลมีเดียที่ดี

การสร้างนิสัยการใช้โซเชียลมีเดียที่ดีเป็นสิ่งสำคัญมากในยุคปัจจุบัน เพราะโซเชียลมีเดียเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของเราไปแล้ว การใช้โซเชียลมีเดียอย่างมีสติและสร้างสรรค์ จะช่วยให้เราได้รับประโยชน์สูงสุดและหลีกเลี่ยงผลกระทบด้านลบ นี่คือวิธีการสร้างนิสัยการใช้โซเชียลมีเดียที่ดี: 1. กำหนดเวลา: ตั้งเวลา: กำหนดเวลาที่ชัดเจนสำหรับการใช้โซเชียลมีเดียแต่ละครั้ง เช่น 1 ชั่วโมงต่อวัน ใช้แอปพลิเคชันช่วย: มีแอปพลิเคชันมากมายที่ช่วยในการติดตามและจำกัดเวลาการใช้งานโซเชียลมีเดีย 2. สร้างกิจวัตร: หาอะไรทำ: หากิจกรรมอื่นๆ ที่สนใจทำ เช่น อ่านหนังสือ ออกกำลังกาย พบปะเพื่อน เพื่อลดเวลาที่ใช้ไปกับโซเชียลมีเดีย วางแผนวัน: วางแผนกิจกรรมต่างๆ ในแต่ละวัน...

วิธีจัดการกับความรู้สึก FOMO (Fear of Missing Out) บนโซเชียลมีเดีย

ความรู้สึก FOMO หรือกลัวว่าจะพลาดอะไรดีๆ ที่เกิดขึ้นรอบตัวบนโซเชียลมีเดียนั้นเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่การปล่อยให้ความรู้สึกนี้ครอบงำชีวิตประจำวันมากเกินไป อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตได้ ดังนั้น มาลองดูวิธีจัดการกับความรู้สึก FOMO กันค่ะ 1. ตระหนักถึงความเป็นจริง: ภาพที่เห็นบนโซเชียลมีเดียไม่ใช่ชีวิตจริงทั้งหมด: สิ่งที่เราเห็นบนโซเชียลมีเดียส่วนใหญ่จะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของคนอื่นๆ การเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นๆ บนโซเชียลมีเดียอาจทำให้เรารู้สึกด้อยค่า ทุกคนมีช่วงเวลาที่ดีและไม่ดี: ไม่มีใครมีความสุขตลอดเวลา การเห็นคนอื่นมีความสุขตลอดเวลาบนโซเชียลมีเดียอาจทำให้เรารู้สึกว่าชีวิตของตัวเองไม่ดีพอ 2. จำกัดเวลาในการใช้โซเชียลมีเดีย: กำหนดเวลา: ตั้งเวลาที่แน่นอนสำหรับการใช้โซเชียลมีเดียแต่ละครั้ง สร้างกิจวัตร: หากิจกรรมอื่นๆ ที่สนใจทำ...

ปัญหาการติดโซเชียลมีเดีย: ภัยเงียบที่คุกคามชีวิตประจำวัน

การติดโซเชียลมีเดีย กลายเป็นปัญหาที่พบเห็นได้บ่อยในยุคดิจิทัล ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของผู้คนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพจิต สังคม และการทำงาน การใช้โซเชียลมีเดียมากเกินไปอาจนำไปสู่ปัญหาต่างๆ ดังนี้ ผลกระทบต่อสุขภาพจิต ความเครียดและวิตกกังวล: การเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่นบนโซเชียลมีเดียอาจนำไปสู่ความรู้สึกไม่ดีต่อตนเองและก่อให้เกิดความเครียด ภาวะซึมเศร้า: การใช้เวลากับโซเชียลมีเดียมากเกินไปอาจทำให้ขาดปฏิสัมพันธ์ทางสังคมในชีวิตจริง ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดภาวะซึมเศร้า การนอนไม่หลับ: การใช้โทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ตก่อนนอนซึ่งมีแสงสีฟ้าจะรบกวนการหลับพักผ่อน ความรู้สึกโดดเดี่ยว: แม้จะมีเพื่อนมากมายบนโซเชียลมีเดีย แต่การขาดปฏิสัมพันธ์ทางสังคมในชีวิตจริงอาจทำให้รู้สึกโดดเดี่ยว ผลกระทบต่อสังคม ความสัมพันธ์ส่วนตัว: การใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับโซเชียลมีเดียอาจทำให้ความสัมพันธ์กับครอบครัวและเพื่อนฝูงเสื่อมลง ผลการเรียน: นักเรียนที่ใช้โซเชียลมีเดียมากเกินไปอาจมีสมาธิในการเรียนลดลงและผลการเรียนตกต่ำ ประสิทธิภาพในการทำงาน: การตรวจสอบโซเชียลมีเดียบ่อยครั้งขณะทำงานจะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงาน ผลกระทบต่อสุขภาพกาย ปัญหาสายตา: การจ้องหน้าจอมือถือเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดอาการตาแห้ง ปวดตา และสายตาสั้น ปวดคอและไหล่:...

วิธีการใช้โซเชียลมีเดียอย่างปลอดภัย

การใช้โซเชียลมีเดียเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปแล้ว แต่ก็มีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ หากเราไม่ระมัดระวังในการใช้งาน ดังนั้น มาดูวิธีการใช้โซเชียลมีเดียอย่างปลอดภัยกันค่ะ 1. ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว จำกัดผู้ที่สามารถเห็นโพสต์: เลือกให้เฉพาะเพื่อนหรือกลุ่มคนที่คุณไว้วางใจเท่านั้นที่สามารถเห็นโพสต์ของคุณได้ ปรับการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของแต่ละแอป: แต่ละแอปจะมีการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวที่แตกต่างกันไป ควรศึกษาและปรับตั้งค่าให้เหมาะสมกับความต้องการของคุณ ตรวจสอบการตั้งค่าบ่อยๆ: โซเชียลมีเดียอาจมีการปรับเปลี่ยนการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวอยู่เสมอ ควรตรวจสอบเป็นประจำ 2. สร้างรหัสผ่านที่แข็งแรง หลีกเลี่ยงการใช้ข้อมูลส่วนตัว: อย่าใช้วันเกิด ชื่อสัตว์เลี้ยง หรือข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ มาเป็นรหัสผ่าน ใช้รหัสผ่านที่แตกต่างกัน: สำหรับแต่ละบัญชีโซเชียลมีเดีย ควรใช้รหัสผ่านที่แตกต่างกัน เปิดใช้งานการยืนยันตัวตนสองชั้น: เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการเข้าสู่ระบบ 3. ระวังการคลิกลิงก์ที่ไม่น่าเชื่อถือ ตรวจสอบ...

About ครูออฟ 1606 Articles
https://www.kruaof.com

Be the first to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published.