เริ่มต้นการใช้งาน kidBright

ส่งต่อให้เพื่อนอ่าน :

การใช้งานโปรแกรมสร้างชุดคำสั่ง kidbright IDE เพื่อสั่งให้บอร์ด KidBright ทำงานตามคำสั่ง สามารถเข้าใช้งานได้โดยการดาวน์โหลดโปรแกรมเพื่อติดตั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือ ใช้งานผ่านอินเทอร์เน็ตโดยไปที่ลิงค์ https://www.kidbright.org/simulator/home

การทดลองเขียนโปรแกรม โดยการใช้งานบอร์ด Kidbright สามารถเชื่อมต่อบอร์ดกับเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อทดลองการเขียนโปรแกรม โดยทำการติดตั้ง ไดรเวอร์ USB ของบอร์ด KidBright หรือ ใช้งาน KidBright Virtual ซึ่งเป็นการฝึกเขียนโปรแกรมการใช้งานบอร์ด KidBright ได้เหมือนการใช้งานบอร์ดจริง สามารถทดลองโปรแกรมผ่านอุปกรณ์เสมือนจริงที่มีอยู่ โดยยังไม่จำเป็นต้องจัดหาอุปกรณ์จริง

การทำงานของ KidBright แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง?

บอร์ดสมองกลฝังตัว (Embedded Board) และ โปรแกรมสร้างชุดคำสั่ง KidBright IDE

คลิปวิดีโอ การติดตั้ง KidBright IDE (สำหรับ Windows)

การติดตั้ง FTDI Driver

  1. ทำการดาวน์โหลด FTDI Driver จากลิงค์ https://www.kid-bright.org/download/2290/
  2. ทำการแตกไฟล์ Zip จะได้ไฟล์ CDM21228_Setup.zip
  3. ดับเบิลคลิกเพื่อเริ่มการติดตั้งไดรเวอร์ แล้วคลิกตอบรับ จนกระทั่งการติดตั้งเสร็จสิ้น

ผู้เรียนได้ศึกษาวิธีการเข้าใช้งานโปรแกรมสร้างชุดคำสั่งผ่านอินเทอร์เน็ต และการ การใช้ KidBright Virtual ซึ่งเป็นการจำลองการทำงานของโปรแกรม ผ่านบอร์ด KidBright เสมือนจริง (Simulator)

การเข้าใช้งานโปรแกรมสร้างชุดคำสั่ง KidBright IDE และการทดสอบการใช้งานบอร์ด KidBright สามารถเข้าใช้งานได้ 2 วิธี คือ

วิธีที่ 1 ติดตั้งโปรแกรมลงบนเครื่องคอมพิวเตอร์ และเชื่อมต่อบอร์ดเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยทำการติดตั้งโปรแกรมบลงบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ตามขั้นตอนที่ได้ทำกิจกรรม ติดตั้งไดรเวอร์ USB ของบอร์ด KidBright

วิธีที่ 2 เข้าใช้งานโปรแกรมสร้างชุดคำสั่ง KideBright IDE ผ่านอินเทอร์เน็ตโดยไปที่ลิงค์ https://www.kidbright.org/simulator/home ซึ่งการเข้าใช้งานผ่านอินเทอร์เน็ตสามารถ ทดลองเขียนโปรแกรม โดยการใช้งาน KidBright Virtual ซึ่งเป็นการฝึกเขียนโปรแกรม

การใช้งานบอร์ด KidBright ได้ เหมือนการใช้งานบอร์ดจริง สามารถทดลองโปรแกรมผ่านอุปกรณ์เสมือนจริงที่มีอยู่ โดยยังไม่จำเป็นต้องจัดหาอุปกรณ์จริง ทำให้สามารถเข้าถึงการใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลาที่มีการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ช่วยลดระยะเวลาและค่าใช้จ่ายในการทดลองใช้งานบอร์ดจริง และค่าใช้จ่ายของการสูญเสีย เนื่องจากการขาดความรู้พื้นฐานด้านไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์

ทดสอบการใช้งาน

ขั้นตอนที่ 1

ลากบล็อกแอลอีดี 16×8 จากแถบพื้นฐาน และวางบนพื้นที่สร้างชุดคำสั่ง ซึ่งแต่ละจุดเล็กๆที่เรียงต่อกันเป็นเมทริกซ์ บนบล็อกแอลอีดี 16×8 คือตัวแทนของจุดแต่ละจุดบนจอแสดงผลของบอร์ด KidBright

ขั้นตอนที่ 2

เลือกช่องเล็กๆในบล็อกเอลอีดี 16×8 ให้เป็นจุดสีแดงในตำแหน่งแสดงตัวเลขหนึ่ง จุดที่เลือกเป็นสีแดงบนบล็อก แอลอีดี 16×8 เป็นการสั่งให้จอแสดงผลบนบอร์ด KidBright แสดงเป็นสีแดงด้วย

ขั้นตอนที่ 3 กดปุ่มสร้างโปรแกรม

จะปรากฎข้อความแสดงกระบวนการสร้างโปรแกรม จากนั้น คลิกปุ่ม OK เพื่อปิดกล่องข้อความ

ขั้นตอนที่ 4

โปรแกรมสร้างชุดคำสั่งจะทำการแปลงบล็อกไปเป็นรหัสคำสั่ง เมื่อเรียบร้อยแล้วจะส่งรหัสคำสั่ง ไปยังบอร์ด KidBright ผ่านสายยูเอสบี หรือการจำลองการแสดงผลของบอร์ด KidBright Virtual และจะปรากฏเลขหนึ่งที่จอแสดงผลของบอร์ด KidBright

ให้ผู้เรียน เปลี่ยนรูปการแสดงผลและนำเสนอแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันละกัน

สรุป การจะทำให้บอร์ดสื่อสารกับคอมพิวเตอร์ได้ จะต้องทำการติดตั้ง FTDI Driver และต้องมีอุปกรณ์ที่ใข้ในการเชื่อมต่อ ดังนี้

และหากไม่มีบอร์ดจริง สามารถใช้งานโปรแกรมสร้างชุดคำสั่ง KidBright ผ่านอินเทอร์เน็ต โดยการใช้งาน KidBright Virtual ซึ่งเป็นการฝึกเขียนโปรแกรมการใช้งานบอร์ด KidBright ได้ เหมือนการใช้งานบอร์ดจริง

ส่งต่อให้เพื่อนอ่าน :

วิธีการปกป้องข้อมูลส่วนตัว

การปกป้องข้อมูลส่วนตัวเป็นเรื่องสำคัญที่เราทุกคนต้องเรียนรู้ เพื่อป้องกันไม่ให้คนที่ไม่หวังดีนำข้อมูลของเราไปใช้ในทางที่ไม่ดี เรามีวิธีหลายอย่างในการปกป้องข้อมูลส่วนตัวของเรา วิธีการปกป้องข้อมูลส่วนตัว: ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวกับคนแปลกหน้า: ไม่บอกชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ หรือข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ ให้กับคนที่เราไม่รู้จัก ไม่นัดเจอคนที่เราคุยด้วยทางอินเทอร์เน็ต หากไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ปกครอง ระมัดระวังในการพูดคุยกับคนแปลกหน้าในเกมออนไลน์ หรือแอปพลิเคชันต่างๆ สร้างรหัสผ่านที่ปลอดภัย: ใช้รหัสผ่านที่คาดเดาได้ยาก โดยใช้ตัวอักษร ตัวเลข และสัญลักษณ์ผสมกัน ไม่ใช้รหัสผ่านเดียวกันในหลายบัญชี เก็บรักษารหัสผ่านเป็นความลับ ไม่บอกให้ใครรู้ ระมัดระวังในการใช้งานอินเทอร์เน็ต: ไม่คลิกลิงก์ หรือเปิดไฟล์แนบจากอีเมล หรือข้อความที่ไม่รู้จัก ไม่ดาวน์โหลดโปรแกรม หรือแอปพลิเคชันจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ ตรวจสอบการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวในโซเชียลมีเดีย และแอปพลิเคชันต่างๆ บอกผู้ปกครองหรือคุณครู เมื่อเจอสิ่งผิดปกติ: หากมีคนแปลกหน้าทักมา หรือขอข้อมูลส่วนตัวของเรา หากเจอเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม หรือน่ากลัวบนอินเทอร์เน็ต หากถูกกลั่นแกล้ง...

ทำไมเราต้องปกป้องข้อมูลส่วนตัว?

ข้อมูลส่วนตัวของเรานั้นสำคัญมาก เหมือนกับกุญแจที่ใช้เปิดบ้าน ถ้ามีคนที่ไม่หวังดีได้กุญแจไป เขาอาจจะเข้ามาในบ้านของเราและทำสิ่งที่ไม่ดีได้ ข้อมูลส่วนตัวก็เช่นกัน ถ้าคนที่ไม่หวังดีได้ข้อมูลส่วนตัวของเราไป เขาอาจจะนำไปใช้ในทางที่ไม่ดี ทำให้เราเดือดร้อนได้ เหตุผลที่เราต้องปกป้องข้อมูลส่วนตัว: ป้องกันการถูกแอบอ้าง: คนที่ไม่หวังดีอาจนำข้อมูลส่วนตัวของเราไปใช้แอบอ้างเป็นตัวเรา เช่น สมัครบัญชีออนไลน์ หรือทำธุรกรรมต่างๆ ในชื่อของเรา ทำให้เราต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เราไม่ได้ทำ ป้องกันการถูกหลอกลวง: คนที่ไม่หวังดีอาจใช้ข้อมูลส่วนตัวของเราในการหลอกลวง เช่น ส่งอีเมลหรือข้อความหลอกลวงให้เราโอนเงิน หรือให้ข้อมูลส่วนตัวเพิ่มเติม ป้องกันการถูกกลั่นแกล้ง: คนที่ไม่หวังดีอาจใช้ข้อมูลส่วนตัวของเราในการกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์ เช่น เผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวของเราให้คนอื่นรู้ หรือใช้ข้อมูลส่วนตัวของเราในการสร้างข่าวลือที่ไม่ดี ป้องกันการถูกขโมยข้อมูล: คนที่ไม่หวังดีอาจขโมยข้อมูลส่วนตัวของเราไปขาย หรือนำไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมาย ป้องกันอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน: ข้อมูลส่วนตัวบางอย่างเช่น...

ข้อมูลส่วนตัวคืออะไร?

ข้อมูลส่วนตัว คือ ข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนของเราได้ ข้อมูลเหล่านี้สำคัญมาก เพราะหากมีคนรู้ข้อมูลส่วนตัวของเรา อาจนำไปใช้ในทางที่ไม่ดีได้ ตัวอย่างข้อมูลส่วนตัว: ชื่อ-นามสกุล: ชื่อจริงและนามสกุลของเรา ที่อยู่: บ้านเลขที่ ถนน ตำบล อำเภอ จังหวัด รหัสไปรษณีย์ เบอร์โทรศัพท์: เบอร์โทรศัพท์บ้านหรือเบอร์โทรศัพท์มือถือของเรา วันเดือนปีเกิด: วัน เดือน และปีที่เราเกิด รูปภาพ: รูปถ่ายของเรา ข้อมูลโรงเรียน: ชื่อโรงเรียน ชั้นเรียน...

พัฒนาอินโฟกราฟิกให้ปัง! ด้วยการรับฟังและปรับปรุงผลงาน

ความสำคัญของการรับฟังความคิดเห็น: ช่วยให้เข้าใจมุมมองและความต้องการของผู้ฟัง ช่วยให้เห็นจุดแข็งและจุดอ่อนของผลงาน ช่วยให้สามารถปรับปรุงผลงานให้ดียิ่งขึ้น ส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาตนเอง ขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็น: 1. เปิดใจรับฟัง: ตั้งใจฟังความคิดเห็นของผู้อื่นอย่างตั้งใจ หลีกเลี่ยงการโต้แย้งหรือตัดสินความคิดเห็น 2. จดบันทึก: จดบันทึกความคิดเห็นที่สำคัญ เพื่อนำมาพิจารณา 3. วิเคราะห์ความคิดเห็น: แยกแยะความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์และไม่เป็นประโยชน์ พิจารณาว่าความคิดเห็นใดที่สามารถนำมาปรับปรุงผลงานได้ 4. ปรับปรุงผลงาน: นำความคิดเห็นที่ได้มาปรับปรุงผลงานให้ดียิ่งขึ้น ทดสอบผลงานที่ปรับปรุงแล้วกับกลุ่มเป้าหมาย 5. ขอบคุณผู้ให้ความคิดเห็น: แสดงความขอบคุณต่อผู้ที่ให้ความคิดเห็น แสดงให้เห็นว่าความคิดเห็นของพวกเขาได้รับการนำไปใช้ประโยชน์ เทคนิคการรับฟังความคิดเห็น: ตั้งคำถามปลายเปิด เพื่อให้ผู้ฟังแสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระ แสดงความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจผู้ฟัง สรุปความคิดเห็นของผู้ฟัง เพื่อให้แน่ใจว่าเข้าใจถูกต้อง ขอคำแนะนำเพิ่มเติม เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วน การนำเสนอผลงาน และรับฟังความคิดเห็น หลังจากนำเสนอผลงาน Infographic เสร็จ ควรเปิดโอกาศให้ผู้ร่วมรับชมผลงานนั้น ได้แสดงความคิดเห็น จดบันทึกคำถาม และข้อสงสัยต่างๆ เพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไขผลงาน กิจกรรม: ให้นักเรียนนำเสนออินโฟกราฟิกที่ตนเองสร้าง และรับฟังความคิดเห็นจากเพื่อนๆ หรือครู ให้นักเรียนปรับปรุงอินโฟกราฟิกของตนเองตามความคิดเห็นที่ได้รับ ให้นักเรียนสะท้อนความคิดเห็นเกี่ยวกับการรับฟังความคิดเห็นและการปรับปรุงผลงาน คำถามทบทวน: ทำไมการรับฟังความคิดเห็นจึงสำคัญ? มีขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นอย่างไร? มีเทคนิคอะไรบ้างในการรับฟังความคิดเห็น?...

About ครูออฟ 1711 Articles
https://www.kruaof.com