หลัก SMART เป็นกรอบการทำงานที่ช่วยในการกำหนดวัตถุประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย 5 องค์ประกอบหลักคือ Specific (เฉพาะเจาะจง), Measurable (วัดผลได้), Achievable (สามารถทำได้), Relevant (สอดคล้อง), และ Time-bound (มีกรอบเวลาชัดเจน) การใช้หลัก SMART ช่วยให้การวางแผนและการบรรลุเป้าหมายเป็นไปอย่างมีระบบและสามารถตรวจสอบได้ง่ายขึ้น
Specific (เฉพาะเจาะจง)
วัตถุประสงค์ควรชัดเจนและเฉพาะเจาะจง เพื่อที่จะเข้าใจได้ง่ายว่าต้องการบรรลุอะไร ตัวอย่างเช่น “เพิ่มยอดขายสินค้าประเภท X ในไตรมาสที่ 3” ดีกว่า “เพิ่มยอดขาย”
Measurable (วัดผลได้)
การกำหนดวัตถุประสงค์ควรมีเกณฑ์ในการวัดผล เช่น การกำหนดตัวเลข เปอร์เซ็นต์ หรือมาตรวัดที่ชัดเจน ตัวอย่างเช่น “เพิ่มยอดขายสินค้าประเภท X ขึ้น 15% ในไตรมาสที่ 3”
Achievable (สามารถทำได้)
วัตถุประสงค์ควรเป็นสิ่งที่สามารถทำได้จริง โดยคำนึงถึงทรัพยากรและข้อจำกัดที่มี ตัวอย่างเช่น การเพิ่มยอดขาย 50% ใน 1 เดือนอาจไม่สมจริง แต่ 15% ใน 3 เดือนอาจเป็นไปได้
Relevant (สอดคล้อง)
วัตถุประสงค์ควรสอดคล้องกับเป้าหมายและยุทธศาสตร์ขององค์กร การทำให้ทุกคนในทีมเข้าใจว่าเป้าหมายนี้มีความสำคัญอย่างไรต่อตำแหน่งและงานของตน
Time-bound (มีกรอบเวลาชัดเจน)
วัตถุประสงค์ควรมีกรอบเวลาที่ชัดเจน เพื่อให้ทราบถึงระยะเวลาที่ต้องการบรรลุเป้าหมาย ตัวอย่างเช่น “เพิ่มยอดขายสินค้าประเภท X ขึ้น 15% ภายในวันที่ 30 กันยายน 2024”
การใช้หลัก SMART ในการกำหนดวัตถุประสงค์จะช่วยให้เป้าหมายมีความชัดเจนและสามารถติดตามผลได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะทำให้การบรรลุเป้าหมายมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น