การนำเสนออย่างไม่เป็นแบบแผน (Informal Presentation)

ส่งต่อให้เพื่อนอ่าน :

การนำเสนออย่างไม่เป็นแบบแผน (informal presentation) หมายถึงการนำเสนอที่ไม่มีกฎเกณฑ์ที่เคร่งครัด โดยสามารถนำเสนอข้อมูลได้อย่างยืดหยุ่นและสร้างสรรค์ เพื่อให้เข้ากับลักษณะของข้อมูลและกลุ่มเป้าหมายของผู้รับสาร

ความหมายของการนำเสนออย่างไม่เป็นแบบแผน

การนำเสนออย่างไม่เป็นแบบแผนมักใช้ในสถานการณ์ที่ต้องการความยืดหยุ่นและสร้างความเป็นกันเองในการสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอในรูปแบบบทความ ข้อความกึ่งตาราง หรือสไลด์พรีเซนเทชัน การนำเสนอประเภทนี้ช่วยให้ผู้ส่งสารสามารถปรับเปลี่ยนวิธีการนำเสนอได้ตามความเหมาะสมและความเข้าใจของผู้รับสาร

ข้อดีของการนำเสนออย่างไม่เป็นแบบแผน

  1. ความยืดหยุ่นในการนำเสนอ: ผู้ส่งสารสามารถปรับเปลี่ยนวิธีการนำเสนอให้เหมาะสมกับสถานการณ์และกลุ่มผู้ฟังได้อย่างอิสระ
  2. สร้างความเป็นกันเอง: การนำเสนอแบบนี้ช่วยสร้างบรรยากาศที่เป็นกันเองและเปิดโอกาสให้ผู้ฟังมีส่วนร่วมในการสนทนา
  3. ง่ายต่อการปรับเปลี่ยน: หากมีข้อผิดพลาดหรือข้อมูลเพิ่มเติม การนำเสนอแบบไม่เป็นแบบแผนสามารถปรับเปลี่ยนได้ง่ายโดยไม่ต้องยึดติดกับรูปแบบที่กำหนดไว้

วิธีการนำเสนออย่างไม่เป็นแบบแผน

1. การนำเสนอในรูปแบบบทความ

บทความเป็นรูปแบบการนำเสนอที่สามารถสื่อสารข้อมูลได้อย่างชัดเจนและลึกซึ้ง ผู้เขียนสามารถใช้ภาษาและสำนวนที่เหมาะสมเพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจและติดตามได้ง่าย

ขั้นตอนการเขียนบทความมีดังนี้:

  1. เลือกหัวข้อที่น่าสนใจ: หัวข้อควรเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ผู้อ่านสนใจและต้องการรู้
  2. รวบรวมข้อมูล: ค้นคว้าข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือและสรุปเป็นเนื้อหาที่เข้าใจง่าย
  3. เขียนบทความ: เริ่มจากการเขียนโครงร่าง แล้วขยายความเป็นย่อหน้า ใช้ภาษาที่กระชับและชัดเจน

2. การนำเสนอข้อมูลในรูปของข้อความกึ่งตาราง

การนำเสนอข้อมูลในรูปของข้อความกึ่งตารางเป็นวิธีที่ช่วยจัดระเบียบข้อมูลให้ชัดเจนและง่ายต่อการเข้าใจ

ขั้นตอนการสร้างข้อความกึ่งตารางมีดังนี้:

  1. กำหนดหัวข้อและหัวข้อย่อย: จัดกลุ่มข้อมูลที่เกี่ยวข้องกันไว้ในหัวข้อและหัวข้อย่อย
  2. สร้างตาราง: ใช้โปรแกรมประมวลผลคำ เช่น Microsoft Word เพื่อสร้างตารางที่มีหัวข้อและหัวข้อย่อย
  3. กรอกข้อมูล: นำข้อมูลที่รวบรวมมาใส่ในตาราง โดยให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกันอยู่ในแถวหรือคอลัมน์เดียวกัน

3. การนำเสนอผ่านสไลด์พรีเซนเทชัน

การนำเสนอผ่านสไลด์พรีเซนเทชันช่วยให้ผู้ส่งสารสามารถแสดงข้อมูลในรูปแบบที่น่าสนใจและดึงดูดความสนใจของผู้ฟัง

ขั้นตอนการสร้างสไลด์พรีเซนเทชันมีดังนี้:

  1. เลือกโปรแกรมที่ใช้สร้างสไลด์: โปรแกรมที่นิยมใช้ เช่น Microsoft PowerPoint หรือ Google Slides
  2. กำหนดโครงร่างสไลด์: วางแผนเนื้อหาที่จะนำเสนอในแต่ละสไลด์ให้มีความชัดเจนและต่อเนื่อง
  3. เพิ่มเนื้อหาและรูปภาพ: ใส่เนื้อหาสำคัญและรูปภาพประกอบเพื่อเพิ่มความน่าสนใจ
  4. ทบทวนและปรับปรุง: ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลและปรับปรุงสไลด์ให้มีความสวยงามและน่าสนใจ

การประยุกต์ใช้การนำเสนออย่างไม่เป็นแบบแผนในองค์กร

ในองค์กร การนำเสนออย่างไม่เป็นแบบแผนสามารถนำมาใช้ในการประชุม การฝึกอบรม หรือการสื่อสารภายในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น

1. การประชุมทีม

ในการประชุมทีม การนำเสนอข้อมูลในรูปแบบกึ่งตารางหรือสไลด์พรีเซนเทชันสามารถช่วยให้การสื่อสารข้อมูลสำคัญเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ

2. การฝึกอบรมพนักงาน

การฝึกอบรมพนักงานสามารถใช้การนำเสนอผ่านสไลด์พรีเซนเทชันเพื่อให้ข้อมูลที่ซับซ้อนเข้าใจง่ายและน่าสนใจมากขึ้น

3. การสื่อสารภายในองค์กร

การส่งอีเมลหรือบันทึกภายในองค์กรสามารถใช้รูปแบบบทความเพื่อสื่อสารข้อมูลที่ต้องการได้อย่างชัดเจนและมีประสิทธิภาพ

สรุป

การนำเสนออย่างไม่เป็นแบบแผนเป็นวิธีการที่ยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพในการสื่อสารข้อมูล ผู้ส่งสารสามารถใช้วิธีการนำเสนอที่หลากหลาย เช่น บทความ ข้อความกึ่งตาราง หรือสไลด์พรีเซนเทชัน เพื่อให้การสื่อสารข้อมูลเป็นไปอย่างราบรื่นและเข้าใจง่าย

ส่งต่อให้เพื่อนอ่าน :

หน่วยที่ 1 การออกแบบวิธีการแก้ปัญหา ป.6

  ว 4.2 ป.6/1 ตอนที่ 1.1 การออกแบบวิธีการแก้ไขปัญหา  1.1.1 การแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอน 1.1.2 การใช้เหตุผลเชิงตรรกะ 1.1.3 แนวคิดของการทำงานแบบวนซ้ำ และเงื่อนไขคิดของการทำงานแบบวนซ้ำ และเงื่อนไข 1.1.4 กระบวนการทำงานที่มีการทำงานแบบวนซ้ำหรือเงื่อนไข 1.1.5 ตัวอย่างปัญหา สาระสำคัญ การออกแบบวิธีการแก้ปัญหา เป็นทักษะสำคัญที่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ควรมี เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ...

หน่วยที่ 2 การเขียนโปรแกรมเพื่อแก้ปัญหา ป.6

ขั้นตอนการศึกษาประจำหน่วยที่ 2 การเขียนโปรแกรมเพื่อแก้ปัญหา ภาคเรียนที่ 1 ใช้เวลาเรียน 14 ชั่วโมง ขั้นตอนที่ 1 ให้นักเรียนศึกษาเนื้อหารายละเอียดในเอกสารประกอบการสอน วิชาวิทยาการคำนวณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หรือ จากเว็บไซต์ www.kruaof.com ขั้นตอนที่ 2 ทำแบบทดสอบหลังเรียน ตามตัวชี้วัด นักเรียนต้องทำแบบทดสอบผ่านทุกตัว ตัวชี้วัด ตอนที่ 2.1 การออกแบบโปรแกรม 2.1.1 การออกแบบโปรแกรมด้วยการเขียนเป็นข้อความ 2.1.2 การออกแบบโปรแกรมด้วยผังงาน ตอนที่...

การต่อต้านการทุจริตในฐานะพลเมือง: พลังเล็กๆ ที่เปลี่ยนแปลงโลกได้

การต่อต้านการทุจริต ไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลยนะทุกคน แม้ว่าเราจะเป็นเด็กตัวเล็กๆ แต่เราก็มีส่วนร่วมในการสร้างสังคมที่ดีได้เช่นกัน การเป็นพลเมืองที่ดีหมายถึงการรู้จักทำสิ่งที่ถูกต้องและช่วยกันต่อต้านสิ่งที่ไม่ดี ไม่ว่าเราจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม ทำไมเราต้องต่อต้านการทุจริต? เพื่อให้สังคมน่าอยู่: การทุจริตทำให้สังคมไม่เป็นธรรม คนดีเสียเปรียบ คนไม่ดีได้เปรียบ การต่อต้านการทุจริตจะช่วยให้สังคมของเรามีความยุติธรรมมากขึ้น เพื่ออนาคตของประเทศ: การทุจริตจะทำให้ประเทศชาติเสียหาย พัฒนาช้าลง การต่อต้านการทุจริตจะช่วยให้ประเทศของเราเจริญก้าวหน้า เพื่อตัวเราเอง: การเป็นคนดี ไม่ร่วมมือกับการกระทำที่ผิด จะทำให้เรามีความสุขใจและเป็นที่ยอมรับของสังคม เราจะต่อต้านการทุจริตได้อย่างไรบ้าง? แจ้งเบาะแส: ถ้าเราเห็นใครทำผิดกฎหมาย หรือทำอะไรที่ไม่ถูกต้อง เราสามารถแจ้งให้ผู้ใหญ่ที่เราไว้วางใจทราบ หรือแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ไม่ร่วมมือกับการกระทำที่ผิดกฎหมาย:...

การสร้างสังคมที่ดี: ปลูกฝังเด็กให้เป็นพลเมืองดี

การสร้างสังคมที่ดีเริ่มต้นจากการปลูกฝังให้เด็กๆ มีจิตสำนึกที่ดีและเข้าใจถึงความสำคัญของการอยู่ร่วมกันในสังคมค่ะ การสอนให้เด็กๆ เรียนรู้หลักการสำคัญต่างๆ เช่น การเคารพซึ่งกันและกัน การอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข และการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน จะเป็นการเตรียมความพร้อมให้พวกเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพและสามารถสร้างสรรค์สังคมที่ดีได้ในอนาคต หลักการสำคัญในการสร้างสังคมที่ดีที่เด็กควรเรียนรู้ การเคารพซึ่งกันและกัน: หมายถึงการให้เกียรติผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน ครู ผู้ใหญ่ หรือคนในสังคม โดยไม่แบ่งแยก เชื้อชาติ ศาสนา เพศ หรือฐานะทางสังคม การเคารพผู้อื่นจะช่วยให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีและสร้างสรรค์ในสังคม การอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข:...

About ครูออฟ 1546 Articles
https://www.kruaof.com