การเขียนโปรแกรมแบบมีเงื่อนไข: การทำงานของโปรแกรมแบบเลือกทำตามเงื่อนไข (Decision)

ส่งต่อให้เพื่อนอ่าน :

การเขียนโปรแกรมแบบมีเงื่อนไขเป็นกระบวนการที่สำคัญและจำเป็นในวงการการเขียนโปรแกรม การทำงานของโปรแกรมแบบเลือกทำตามเงื่อนไข หรือที่เรียกว่า Decision Making สามารถแบ่งออกเป็น 3 แบบหลัก ซึ่งได้แก่ คำสั่ง If…Then, คำสั่ง If…Then…Else, และ คำสั่ง If…Then…Elseif

1. คำสั่ง If…Then

คำสั่ง If…Then เป็นคำสั่งที่ใช้ในการตรวจสอบเงื่อนไขและดำเนินการเมื่อเงื่อนไขนั้นเป็นจริง คำสั่งนี้จะมีทางเลือกเพียงทางเดียวเท่านั้น คำสั่งจะทำงานตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้

ตัวอย่างการใช้คำสั่ง If…Then

if condition:
    # ดำเนินการเมื่อเงื่อนไขเป็นจริง

ในตัวอย่างนี้ เมื่อเงื่อนไขที่กำหนดเป็นจริง โค้ดภายในบล็อกจะถูกดำเนินการ

การประยุกต์ใช้ในโปรแกรมจริง

ตัวอย่างการใช้คำสั่ง If…Then ในโปรแกรมที่ตรวจสอบอายุของผู้ใช้

age = int(input("กรุณาใส่อายุของคุณ: "))

if age >= 18:
    print("คุณสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้")

ในตัวอย่างนี้ หากผู้ใช้มีอายุ 18 ปีหรือมากกว่า โปรแกรมจะแสดงข้อความว่า “คุณสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้”

2. คำสั่ง If…Then…Else

คำสั่ง If…Then…Else เป็นการขยายความสามารถของคำสั่ง If โดยเพิ่มทางเลือกอีกทางหนึ่งเมื่อเงื่อนไขเป็นเท็จ คำสั่งนี้ทำให้โปรแกรมมีทางเลือกสองทาง

ตัวอย่างการใช้คำสั่ง If…Then…Else

if condition:
    # ดำเนินการเมื่อเงื่อนไขเป็นจริง
else:
    # ดำเนินการเมื่อเงื่อนไขเป็นเท็จ

ในตัวอย่างนี้ โปรแกรมจะดำเนินการตามเงื่อนไขที่กำหนด ไม่ว่าจะเป็นจริงหรือเท็จ

การประยุกต์ใช้ในโปรแกรมจริง

ตัวอย่างการใช้คำสั่ง If…Then…Else ในโปรแกรมที่ตรวจสอบคะแนนของนักเรียน

score = int(input("กรุณาใส่คะแนนของคุณ: "))

if score >= 50:
    print("คุณสอบผ่าน")
else:
    print("คุณสอบไม่ผ่าน")

ในตัวอย่างนี้ หากนักเรียนมีคะแนน 50 คะแนนหรือมากกว่า โปรแกรมจะแสดงข้อความว่า “คุณสอบผ่าน” แต่ถ้าคะแนนน้อยกว่า 50 โปรแกรมจะแสดงข้อความว่า “คุณสอบไม่ผ่าน”

3. คำสั่ง If…Then…Elseif

คำสั่ง If…Then…Elseif เป็นการขยายความสามารถของคำสั่ง If…Then…Else โดยเพิ่มเงื่อนไขเพิ่มเติม ทำให้มีทางเลือกมากกว่าสองทาง

ตัวอย่างการใช้คำสั่ง If…Then…Elseif

if condition1:
    # ดำเนินการเมื่อเงื่อนไขที่ 1 เป็นจริง
elif condition2:
    # ดำเนินการเมื่อเงื่อนไขที่ 2 เป็นจริง
else:
    # ดำเนินการเมื่อเงื่อนไขทั้งหมดเป็นเท็จ

ในตัวอย่างนี้ โปรแกรมจะตรวจสอบเงื่อนไขหลายๆ เงื่อนไขและดำเนินการตามเงื่อนไขที่เป็นจริง

การประยุกต์ใช้ในโปรแกรมจริง

ตัวอย่างการใช้คำสั่ง If…Then…Elseif ในโปรแกรมที่ตรวจสอบระดับเกรดของนักเรียน

score = int(input("กรุณาใส่คะแนนของคุณ: "))

if score >= 80:
    print("เกรดของคุณคือ A")
elif score >= 70:
    print("เกรดของคุณคือ B")
elif score >= 60:
    print("เกรดของคุณคือ C")
else:
    print("คุณต้องพยายามอีกครั้ง")

ในตัวอย่างนี้ โปรแกรมจะตรวจสอบคะแนนของนักเรียนและแสดงผลตามระดับเกรดที่กำหนด

การสรุปการทำงานของโปรแกรมแบบเลือกทำตามเงื่อนไข

การเขียนโปรแกรมแบบมีเงื่อนไขเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการพัฒนาโปรแกรมที่มีความซับซ้อน การใช้คำสั่ง If…Then, If…Then…Else, และ If…Then…Elseif ช่วยให้โปรแกรมสามารถตัดสินใจและดำเนินการตามเงื่อนไขที่กำหนดได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ การทำความเข้าใจและใช้คำสั่งเหล่านี้อย่างถูกต้องจะช่วยให้โปรแกรมเมอร์สามารถสร้างโปรแกรมที่มีความยืดหยุ่นและตอบสนองต่อเงื่อนไขต่างๆ ได้ดีขึ้น

ส่งต่อให้เพื่อนอ่าน :

สีในบล็อกคำสั่งของโปรแกรมภาษาสแครช

สีของบล็อกคำสั่งใน Scratch จะแบ่งออกเป็นกลุ่มหลักๆ ดังนี้: สีม่วง: บล็อกควบคุม (Control) เช่น เมื่อคลิกธงเขียว, รอ, ทำซ้ำ สีส้ม: บล็อกการมองเห็น (Looks) เช่น พูด, เปลี่ยนชุด, เปลี่ยนขนาด สีฟ้า: บล็อกเสียง (Sound) เช่น เล่นเสียง,...

4.1.1 รู้จักกับโปรแกรมนำเสนอ Microsoft PowerPoint

Microsoft PowerPoint คืออะไร? Microsoft PowerPoint เป็นโปรแกรมที่ใช้สร้างงานนำเสนอ (Presentation) โดยมีลักษณะเป็นสไลด์ (Slide) แต่ละแผ่น ซึ่งสามารถใส่ข้อความ รูปภาพ วิดีโอ เสียง และองค์ประกอบอื่นๆ เพื่อนำเสนอข้อมูลให้เข้าใจง่ายและน่าสนใจ PowerPoint มีประโยชน์อย่างไร สร้างงานนำเสนอที่น่าสนใจ: ช่วยให้นักเรียนนำเสนอรายงาน...

วิธีการสร้างนิสัยการใช้โซเชียลมีเดียที่ดี

การสร้างนิสัยการใช้โซเชียลมีเดียที่ดีเป็นสิ่งสำคัญมากในยุคปัจจุบัน เพราะโซเชียลมีเดียเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของเราไปแล้ว การใช้โซเชียลมีเดียอย่างมีสติและสร้างสรรค์ จะช่วยให้เราได้รับประโยชน์สูงสุดและหลีกเลี่ยงผลกระทบด้านลบ นี่คือวิธีการสร้างนิสัยการใช้โซเชียลมีเดียที่ดี: 1. กำหนดเวลา: ตั้งเวลา: กำหนดเวลาที่ชัดเจนสำหรับการใช้โซเชียลมีเดียแต่ละครั้ง เช่น 1 ชั่วโมงต่อวัน ใช้แอปพลิเคชันช่วย: มีแอปพลิเคชันมากมายที่ช่วยในการติดตามและจำกัดเวลาการใช้งานโซเชียลมีเดีย 2. สร้างกิจวัตร: หาอะไรทำ: หากิจกรรมอื่นๆ ที่สนใจทำ เช่น อ่านหนังสือ ออกกำลังกาย พบปะเพื่อน เพื่อลดเวลาที่ใช้ไปกับโซเชียลมีเดีย วางแผนวัน: วางแผนกิจกรรมต่างๆ ในแต่ละวัน...

วิธีจัดการกับความรู้สึก FOMO (Fear of Missing Out) บนโซเชียลมีเดีย

ความรู้สึก FOMO หรือกลัวว่าจะพลาดอะไรดีๆ ที่เกิดขึ้นรอบตัวบนโซเชียลมีเดียนั้นเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่การปล่อยให้ความรู้สึกนี้ครอบงำชีวิตประจำวันมากเกินไป อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตได้ ดังนั้น มาลองดูวิธีจัดการกับความรู้สึก FOMO กันค่ะ 1. ตระหนักถึงความเป็นจริง: ภาพที่เห็นบนโซเชียลมีเดียไม่ใช่ชีวิตจริงทั้งหมด: สิ่งที่เราเห็นบนโซเชียลมีเดียส่วนใหญ่จะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของคนอื่นๆ การเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นๆ บนโซเชียลมีเดียอาจทำให้เรารู้สึกด้อยค่า ทุกคนมีช่วงเวลาที่ดีและไม่ดี: ไม่มีใครมีความสุขตลอดเวลา การเห็นคนอื่นมีความสุขตลอดเวลาบนโซเชียลมีเดียอาจทำให้เรารู้สึกว่าชีวิตของตัวเองไม่ดีพอ 2. จำกัดเวลาในการใช้โซเชียลมีเดีย: กำหนดเวลา: ตั้งเวลาที่แน่นอนสำหรับการใช้โซเชียลมีเดียแต่ละครั้ง สร้างกิจวัตร: หากิจกรรมอื่นๆ ที่สนใจทำ...

About ครูออฟ 1630 Articles
https://www.kruaof.com