ยุคของคอมพิวเตอร์

ส่งต่อให้เพื่อนอ่าน :

คอมพิวเตอร์มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่องจากอดีตสู่ปัจจุบันรวมถึงอนาคตอันใกล้ ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 6 ยุค ตามลักษณะของฮาร์ดแวร์ที่ใช้สร้างและการใช้งานคอมพิวเตอร์ ดังนี้

ยุคที่ 1 ยุคหลอดสุญญากาศ เริ่มตั้งแต่ ค.ศ. 1940–1953 คือ ยุคที่ใช้หลอดสุญญากาศเป็นอุปกรณ์หลักในการทำงานของคอมพิวเตอร์ ทำให้คอมพิวเตอร์ในยุคนี้ต้องอยู่ในห้องปรับอากาศตลอดเวลา ผู้ใช้คอมพิวเตอร์จะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากคอมพิวเตอร์ยังใช้ภาษาเครื่องที่มีลักษณะเป็นรหัสเลขฐานสองอยู่

ยุคที่ 2 ยุคทรานซิสเตอร์ เริ่มตั้งแต่ ค.ศ. 1954–1963 คอมพิวเตอร์ในยุคนี้มีขนาดเล็กลงและไม่ต้องใช้เวลาในการอุ่นเครื่องนานเหมือนคอมพิวเตอร์ในยุคสุญญากาศ เนื่องจากใช้ทรานซิสเตอร์แทนหลอดสุญญากาศ ทำให้มีราคาถูก ใช้พลังงานน้อยลง มีประสิทธิภาพ และทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

ยุคที่ 3 ยุคอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ เริ่มตั้งแต่ ค.ศ. 1964–1972 ในยุคนี้มีการนำแผงวงจรรวมที่มีความสามารถเทียบเท่ากับการใช้ทรานซิสเตอร์หลายร้อยตัวมารวมกันมาสร้างคอมพิวเตอร์ ทำให้คอมพิวเตอร์มีขนาดเล็กลงกว่าเดิม ใช้พลังงานน้อย ทำงานได้เร็ว และมีราคาถูกลง จนในปี ค.ศ. 1965 จึงได้มีการสร้างมินิคอมพิวเตอร์ขึ้นและใช้งานในบุคคลทั่วไปอย่างแพร่หลาย

ยุคที่ 4 ยุคคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหรือยุคไมโครคอมพิวเตอร์ เริ่มตั้งแต่ ค.ศ. 1972–1984 เป็นการพัฒนาคอมพิวเตอร์ในยุคที่ 3 ซึ่งใช้แผงวงจรรวมขนาดเล็กมาเป็นแผงวงจรขนาดใหญ่มากจนเกิดเป็นไมโครโพรเซสเซอร์หรือชิปขึ้น โดยชิปตัวแรกผลิตโดยบริษัทอินเทล ชื่อ อินเทล 4004 ส่งผลให้คอมพิวเตอร์มีขนาดเล็กลง มีความเร็วมากขึ้น สามารถเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์ด้วยกันได้ ทำให้สามารถใช้ทรัพยากรร่วมกันและสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์ได้

ยุคที่ 5 ยุคคอมพิวเตอร์ความเร็วสูง เริ่มตั้งแต่ ค.ศ. 1984–1990 เป็นยุคที่คอมพิวเตอร์ได้รับความนิยมและเกิดการแข่งขันทางด้านคอมพิวเตอร์อย่างสูง ส่งผลให้คอมพิวเตอร์มีราคาถูกลง มีการพัฒนารูปแบบการใช้งานที่ทันสมัย ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับพกพา และรองรับระบบเครือข่ายด้วยความเร็วสูง

ยุคที่ 6 ยุคคอมพิวเตอร์ในอนาคต เริ่มตั้งแต่ ค.ศ. 1900 เป็นต้นไป จะมีการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อช่วยในการตัดสินใจ แก้ปัญหา และการจัดการข้อมูลในชีวิตประจำวันของมนุษย์อย่างแพร่หลาย ทำให้คอมพิวเตอร์มีลักษณะการทำงานและการประมวลผลคล้ายมนุษย์มากยิ่งขึ้น

 

ที่มา : คู่มือครู แผนการสอน เทคโนโลยีสารสนเทศ ม.1 สำนักพิมพ์วัฒนาพาณิชย์

ส่งต่อให้เพื่อนอ่าน :

หน่วยที่ 1 การออกแบบวิธีการแก้ปัญหา ป.6

  ว 4.2 ป.6/1 ตอนที่ 1.1 การออกแบบวิธีการแก้ไขปัญหา  1.1.1 การแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอน 1.1.2 การใช้เหตุผลเชิงตรรกะ 1.1.3 แนวคิดของการทำงานแบบวนซ้ำ และเงื่อนไขคิดของการทำงานแบบวนซ้ำ และเงื่อนไข 1.1.4 กระบวนการทำงานที่มีการทำงานแบบวนซ้ำหรือเงื่อนไข 1.1.5 ตัวอย่างปัญหา สาระสำคัญ การออกแบบวิธีการแก้ปัญหา เป็นทักษะสำคัญที่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ควรมี เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ...

หน่วยที่ 2 การเขียนโปรแกรมเพื่อแก้ปัญหา ป.6

ขั้นตอนการศึกษาประจำหน่วยที่ 2 การเขียนโปรแกรมเพื่อแก้ปัญหา ภาคเรียนที่ 1 ใช้เวลาเรียน 14 ชั่วโมง ขั้นตอนที่ 1 ให้นักเรียนศึกษาเนื้อหารายละเอียดในเอกสารประกอบการสอน วิชาวิทยาการคำนวณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หรือ จากเว็บไซต์ www.kruaof.com ขั้นตอนที่ 2 ทำแบบทดสอบหลังเรียน ตามตัวชี้วัด นักเรียนต้องทำแบบทดสอบผ่านทุกตัว ตัวชี้วัด ตอนที่ 2.1 การออกแบบโปรแกรม 2.1.1 การออกแบบโปรแกรมด้วยการเขียนเป็นข้อความ 2.1.2 การออกแบบโปรแกรมด้วยผังงาน ตอนที่...

การต่อต้านการทุจริตในฐานะพลเมือง: พลังเล็กๆ ที่เปลี่ยนแปลงโลกได้

การต่อต้านการทุจริต ไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลยนะทุกคน แม้ว่าเราจะเป็นเด็กตัวเล็กๆ แต่เราก็มีส่วนร่วมในการสร้างสังคมที่ดีได้เช่นกัน การเป็นพลเมืองที่ดีหมายถึงการรู้จักทำสิ่งที่ถูกต้องและช่วยกันต่อต้านสิ่งที่ไม่ดี ไม่ว่าเราจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม ทำไมเราต้องต่อต้านการทุจริต? เพื่อให้สังคมน่าอยู่: การทุจริตทำให้สังคมไม่เป็นธรรม คนดีเสียเปรียบ คนไม่ดีได้เปรียบ การต่อต้านการทุจริตจะช่วยให้สังคมของเรามีความยุติธรรมมากขึ้น เพื่ออนาคตของประเทศ: การทุจริตจะทำให้ประเทศชาติเสียหาย พัฒนาช้าลง การต่อต้านการทุจริตจะช่วยให้ประเทศของเราเจริญก้าวหน้า เพื่อตัวเราเอง: การเป็นคนดี ไม่ร่วมมือกับการกระทำที่ผิด จะทำให้เรามีความสุขใจและเป็นที่ยอมรับของสังคม เราจะต่อต้านการทุจริตได้อย่างไรบ้าง? แจ้งเบาะแส: ถ้าเราเห็นใครทำผิดกฎหมาย หรือทำอะไรที่ไม่ถูกต้อง เราสามารถแจ้งให้ผู้ใหญ่ที่เราไว้วางใจทราบ หรือแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ไม่ร่วมมือกับการกระทำที่ผิดกฎหมาย:...

การสร้างสังคมที่ดี: ปลูกฝังเด็กให้เป็นพลเมืองดี

การสร้างสังคมที่ดีเริ่มต้นจากการปลูกฝังให้เด็กๆ มีจิตสำนึกที่ดีและเข้าใจถึงความสำคัญของการอยู่ร่วมกันในสังคมค่ะ การสอนให้เด็กๆ เรียนรู้หลักการสำคัญต่างๆ เช่น การเคารพซึ่งกันและกัน การอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข และการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน จะเป็นการเตรียมความพร้อมให้พวกเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพและสามารถสร้างสรรค์สังคมที่ดีได้ในอนาคต หลักการสำคัญในการสร้างสังคมที่ดีที่เด็กควรเรียนรู้ การเคารพซึ่งกันและกัน: หมายถึงการให้เกียรติผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน ครู ผู้ใหญ่ หรือคนในสังคม โดยไม่แบ่งแยก เชื้อชาติ ศาสนา เพศ หรือฐานะทางสังคม การเคารพผู้อื่นจะช่วยให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีและสร้างสรรค์ในสังคม การอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข:...

About ครูออฟ 1546 Articles
https://www.kruaof.com