การค้นหาข้อมูล ป.5

ส่งต่อให้เพื่อนอ่าน :

เมื่อนักเรียนศึกษาเรื่อง การค้นหาข้อมูล แล้ว นักเรียนสามารถบอกได้ว่า

การเริ่มใช้อินเทอร์เน็ตครั้งแรก ถ้าเครื่องคอมพิวเตอร์เชื่อมต่อกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตอยู่แล้วจะต้องใช้โปรแกรมสำหรับเปิดเข้าใช้งานอินเทอร์เน็ต โปรแกรมนี้เรียกว่า เว็บเบราว์เซอร์   ซึ่งมีอยู่หลายโปรแกรม เช่น Internet Explorer หรือ Google Chrome ที่จะใช้ในการค้นหาข้อมูล

เนื้อหาการศึกษาเรื่อง การค้นหาข้อมูล

  1. นักเรียนร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับประเภทของข้อมูล โดยเขียนบันทึกคำตอบของนักเรียน เป็นแผนภาพความคิดบนกระดาน ดังตัวอย่าง
  1. นักเรียนร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับโปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์ที่ใช้ในการค้นหาข้อมูล โดยตอบคำถาม ดังนี้
    • นักเรียนเคยใช้หรือรู้จักโปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์ใดบ้างที่ใช้ในการค้นหาข้อมูล
  2. นักเรียนร่วมกันศึกษาค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับการค้นหาข้อมูล จากแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ อย่างหลากหลาย เช่น การสอบถามจากครูหรือผู้ปกครอง และห้องสมุด
  3. นักเรียนสังเกตและวิเคราะห์สัญลักษณ์โปรแกรมที่ใช้ในการค้นหาข้อมูล และโปรแกรมที่ไม่ใช้ในการค้นหาข้อมูล แล้วนำรูปภาพไปใส่ในช่องตารางตามประเภทของโปรแกรม

โปรแกรมใดที่ใช้ในการค้นหาข้อมูล

โปรแกรมที่ใช้ในการค้นหาข้อมูลโปรแกรมที่ไม่ใช้ในการค้นหาข้อมูล
  1. นักเรียนร่วมกันสังเกตและวิเคราะห์การเข้าใช้งานโปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์ ดังตัวอย่าง
  1. นักเรียนร่วมกันสังเกตและวิเคราะห์หน้าเว็บไซต์ของเว็บเบราว์เซอร์ที่ใช้ในการค้นหาข้อมูล จากนั้นเขียนส่วนประกอบของการใช้งานบนหน้าเว็บไซต์ ดังตัวอย่าง
ภาพที่ 1 โปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์ Internet Explorer
ภาพที่ 2 โปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์ Google Chrome
  1. นักเรียนวิเคราะห์และอภิปรายเกี่ยวกับการค้นหาข้อมูล หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามผู้ปกครอง ครูหรือเพื่อน ๆ ได้ โดยมีการค้นหาข้อมูล ดังนี้

ตัวอย่างที่ 1        การค้นด้วยคำว่า ศาสตร์พระราชา ป้อนคำที่ต้องการสืบค้นลงไปจะปรากฏ ดังภาพ

เมื่อป้อนข้อมูลลงไปแล้ว คลิกเมาส์ที่ “ค้นหา” หรือกดคีย์ Enter โปรแกรมจะแสดงเว็บไซต์ต่าง ๆ  ออกมา ดังภาพ

ข้อมูลต่าง ๆ ที่สืบค้นได้มีอยู่มากมาย หากเราสนใจข้อมูลใดสามารถเลือกลิงก์ (link) ที่แสดงออกมาได้ โดยสามารถเปิดไปยังหน้าเว็บเพจหรือหน้าเว็บไซต์ใหม่ได้ทันที  แต่ถ้าต้องการเปิดในแท็บใหม่ ให้คลิกเมาส์ขวาลิงก์ที่ต้องการ โปรแกรมจะแสดงเมนูให้เลือก ดังภาพ

เราสามารถเลือกได้ เช่น เปิดหน้าเว็บเพจขึ้นมาเป็นแท็บใหม่ หรือเปิดขึ้นมาเป็นหน้าต่างใหม่ ดังภาพ

เมื่อได้ข้อมูลที่สนใจแล้ว หรือกำลังศึกษาในหน้าเพจต่าง ๆ ที่สนใจ ถ้าต้องการย้อนกลับไปยังหน้าก่อนหน้า สามารถทำได้โดยคลิกเมาส์ที่ปุ่ม  ย้อนกลับ ดังภาพ

ตัวอย่างที่ 2     ถ้ากำลังศึกษาเรื่องพลังงานทดแทนและสนใจพลังงานแสงอาทิตย์

ถ้าใช้คำค้นว่า “พลังงานทดแทน” สิ่งที่ได้จะเป็นความหมายกว้าง ๆ เกี่ยวกับพลังงานทดแทน แต่ถ้าระบุให้ตรงประเด็นว่า “พลังงานแสงอาทิตย์” สิ่งที่ได้จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ พลังงานแสงอาทิตย์โดยตรง ดังภาพ

  • การใช้คำค้นแบบไม่เจาะจง
  • การใช้คำค้นแบบเจาะจง

ถ้าต้องการค้นหาเฉพาะภาพ สามารถค้นหาได้เช่นกัน โดยพิมพ์คำหรือข้อความที่ต้องการค้นหา แล้วคลิกเมาส์เลือก ค้นรูป สิ่งที่ได้จะปรากฏภาพที่เกี่ยวข้องขึ้นมา ดังภาพ

  • การค้นหาภาพบนเว็บไซต์ Google
  1. นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์ แล้วตอบคำถามกระตุ้นความคิด ดังนี้
    • นักเรียนจะค้นหาข้อมูลที่ต้องการอย่างไรให้สะดวกและรวดเร็ว

สรุปความคิดรวบยอดเกี่ยวกับการค้นหาข้อมูล

การค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตเราจะได้ผลจากการค้นหามากมาย มีแหล่งข้อมูลหลายแหล่ง การนำข้อมูลมาใช้งานควรพิจารณาด้วยว่าข้อมูลนั้นมาจากหน่วยงานใด เช่น การค้นหาเรื่องพลังงานแสงอาทิตย์ ลิงก์ที่ได้เป็นของสมาคมพลังงานทดแทนสู่ชุมชนแห่งประเทศไทย และเมื่อคลิกเมาส์เข้าไปในเว็บเพจยังแนะนำลิงก์ต่าง ๆ ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไว้ให้เราเลือกอีกด้วย

ส่งต่อให้เพื่อนอ่าน :

วิธีการปกป้องข้อมูลส่วนตัว

การปกป้องข้อมูลส่วนตัวเป็นเรื่องสำคัญที่เราทุกคนต้องเรียนรู้ เพื่อป้องกันไม่ให้คนที่ไม่หวังดีนำข้อมูลของเราไปใช้ในทางที่ไม่ดี เรามีวิธีหลายอย่างในการปกป้องข้อมูลส่วนตัวของเรา วิธีการปกป้องข้อมูลส่วนตัว: ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวกับคนแปลกหน้า: ไม่บอกชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ หรือข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ ให้กับคนที่เราไม่รู้จัก ไม่นัดเจอคนที่เราคุยด้วยทางอินเทอร์เน็ต หากไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ปกครอง ระมัดระวังในการพูดคุยกับคนแปลกหน้าในเกมออนไลน์ หรือแอปพลิเคชันต่างๆ สร้างรหัสผ่านที่ปลอดภัย: ใช้รหัสผ่านที่คาดเดาได้ยาก โดยใช้ตัวอักษร ตัวเลข และสัญลักษณ์ผสมกัน ไม่ใช้รหัสผ่านเดียวกันในหลายบัญชี เก็บรักษารหัสผ่านเป็นความลับ ไม่บอกให้ใครรู้ ระมัดระวังในการใช้งานอินเทอร์เน็ต: ไม่คลิกลิงก์ หรือเปิดไฟล์แนบจากอีเมล หรือข้อความที่ไม่รู้จัก ไม่ดาวน์โหลดโปรแกรม หรือแอปพลิเคชันจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ ตรวจสอบการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวในโซเชียลมีเดีย และแอปพลิเคชันต่างๆ บอกผู้ปกครองหรือคุณครู เมื่อเจอสิ่งผิดปกติ: หากมีคนแปลกหน้าทักมา หรือขอข้อมูลส่วนตัวของเรา หากเจอเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม หรือน่ากลัวบนอินเทอร์เน็ต หากถูกกลั่นแกล้ง...

ทำไมเราต้องปกป้องข้อมูลส่วนตัว?

ข้อมูลส่วนตัวของเรานั้นสำคัญมาก เหมือนกับกุญแจที่ใช้เปิดบ้าน ถ้ามีคนที่ไม่หวังดีได้กุญแจไป เขาอาจจะเข้ามาในบ้านของเราและทำสิ่งที่ไม่ดีได้ ข้อมูลส่วนตัวก็เช่นกัน ถ้าคนที่ไม่หวังดีได้ข้อมูลส่วนตัวของเราไป เขาอาจจะนำไปใช้ในทางที่ไม่ดี ทำให้เราเดือดร้อนได้ เหตุผลที่เราต้องปกป้องข้อมูลส่วนตัว: ป้องกันการถูกแอบอ้าง: คนที่ไม่หวังดีอาจนำข้อมูลส่วนตัวของเราไปใช้แอบอ้างเป็นตัวเรา เช่น สมัครบัญชีออนไลน์ หรือทำธุรกรรมต่างๆ ในชื่อของเรา ทำให้เราต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เราไม่ได้ทำ ป้องกันการถูกหลอกลวง: คนที่ไม่หวังดีอาจใช้ข้อมูลส่วนตัวของเราในการหลอกลวง เช่น ส่งอีเมลหรือข้อความหลอกลวงให้เราโอนเงิน หรือให้ข้อมูลส่วนตัวเพิ่มเติม ป้องกันการถูกกลั่นแกล้ง: คนที่ไม่หวังดีอาจใช้ข้อมูลส่วนตัวของเราในการกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์ เช่น เผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวของเราให้คนอื่นรู้ หรือใช้ข้อมูลส่วนตัวของเราในการสร้างข่าวลือที่ไม่ดี ป้องกันการถูกขโมยข้อมูล: คนที่ไม่หวังดีอาจขโมยข้อมูลส่วนตัวของเราไปขาย หรือนำไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมาย ป้องกันอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน: ข้อมูลส่วนตัวบางอย่างเช่น...

ข้อมูลส่วนตัวคืออะไร?

ข้อมูลส่วนตัว คือ ข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนของเราได้ ข้อมูลเหล่านี้สำคัญมาก เพราะหากมีคนรู้ข้อมูลส่วนตัวของเรา อาจนำไปใช้ในทางที่ไม่ดีได้ ตัวอย่างข้อมูลส่วนตัว: ชื่อ-นามสกุล: ชื่อจริงและนามสกุลของเรา ที่อยู่: บ้านเลขที่ ถนน ตำบล อำเภอ จังหวัด รหัสไปรษณีย์ เบอร์โทรศัพท์: เบอร์โทรศัพท์บ้านหรือเบอร์โทรศัพท์มือถือของเรา วันเดือนปีเกิด: วัน เดือน และปีที่เราเกิด รูปภาพ: รูปถ่ายของเรา ข้อมูลโรงเรียน: ชื่อโรงเรียน ชั้นเรียน...

พัฒนาอินโฟกราฟิกให้ปัง! ด้วยการรับฟังและปรับปรุงผลงาน

ความสำคัญของการรับฟังความคิดเห็น: ช่วยให้เข้าใจมุมมองและความต้องการของผู้ฟัง ช่วยให้เห็นจุดแข็งและจุดอ่อนของผลงาน ช่วยให้สามารถปรับปรุงผลงานให้ดียิ่งขึ้น ส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาตนเอง ขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็น: 1. เปิดใจรับฟัง: ตั้งใจฟังความคิดเห็นของผู้อื่นอย่างตั้งใจ หลีกเลี่ยงการโต้แย้งหรือตัดสินความคิดเห็น 2. จดบันทึก: จดบันทึกความคิดเห็นที่สำคัญ เพื่อนำมาพิจารณา 3. วิเคราะห์ความคิดเห็น: แยกแยะความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์และไม่เป็นประโยชน์ พิจารณาว่าความคิดเห็นใดที่สามารถนำมาปรับปรุงผลงานได้ 4. ปรับปรุงผลงาน: นำความคิดเห็นที่ได้มาปรับปรุงผลงานให้ดียิ่งขึ้น ทดสอบผลงานที่ปรับปรุงแล้วกับกลุ่มเป้าหมาย 5. ขอบคุณผู้ให้ความคิดเห็น: แสดงความขอบคุณต่อผู้ที่ให้ความคิดเห็น แสดงให้เห็นว่าความคิดเห็นของพวกเขาได้รับการนำไปใช้ประโยชน์ เทคนิคการรับฟังความคิดเห็น: ตั้งคำถามปลายเปิด เพื่อให้ผู้ฟังแสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระ แสดงความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจผู้ฟัง สรุปความคิดเห็นของผู้ฟัง เพื่อให้แน่ใจว่าเข้าใจถูกต้อง ขอคำแนะนำเพิ่มเติม เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วน การนำเสนอผลงาน และรับฟังความคิดเห็น หลังจากนำเสนอผลงาน Infographic เสร็จ ควรเปิดโอกาศให้ผู้ร่วมรับชมผลงานนั้น ได้แสดงความคิดเห็น จดบันทึกคำถาม และข้อสงสัยต่างๆ เพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไขผลงาน กิจกรรม: ให้นักเรียนนำเสนออินโฟกราฟิกที่ตนเองสร้าง และรับฟังความคิดเห็นจากเพื่อนๆ หรือครู ให้นักเรียนปรับปรุงอินโฟกราฟิกของตนเองตามความคิดเห็นที่ได้รับ ให้นักเรียนสะท้อนความคิดเห็นเกี่ยวกับการรับฟังความคิดเห็นและการปรับปรุงผลงาน คำถามทบทวน: ทำไมการรับฟังความคิดเห็นจึงสำคัญ? มีขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นอย่างไร? มีเทคนิคอะไรบ้างในการรับฟังความคิดเห็น?...

About ครูออฟ 1711 Articles
https://www.kruaof.com

Be the first to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published.