เมื่อนักเรียนศึกษาเรื่อง ใบพืชในที่แห้งแล้งเก็บน้ำไว้ได้อย่างไร แล้ว นักเรียนสามารถบอกได้ว่า
พืชเป็นสิ่งมีชีวิต จึงมีการตอบสนองและปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมรอบตัว
พืชในบริเวณต่าง ๆ ของโลกมีลักษณะของราก ลำต้น ใบ เมล็ด แตกต่างกัน เพื่อช่วยให้มันมีชีวิตและเจริญเติบโตในที่ต่าง ๆ ได้
ในที่แห้งแล้งพืชปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม โดยมีขี้ผึ้งเคลือบอยู่ที่ใบและลำต้น
เนื้อหาการศึกษาเรื่อง ใบพืชในที่แห้งแล้งเก็บน้ำไว้ได้อย่างไร
- นักเรียนสังเกต สำรวจพืชรอบบริเวณโรงเรียน แล้วกระตุ้นนักเรียนเกิดความสงสัยและต้องการหาคำตอบด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ โดยร่วมกันตอบคำถาม ดังนี้
- พืชมีการตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมรอบตัวอย่างไร
- พืชทำอย่างไรจึงสามารถมีชีวิตรอดอยู่ได้ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมกับมัน
- นักเรียนสังเกตต้นกระบองเพชร แล้วร่วมกันสนทนาและตอบคำถามสำคัญ ดังนี้
- พืชปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมได้อย่างไร
- นักเรียนร่วมกันคาดคะเนคำตอบ
การปรับตัวของสิ่งมีชีวิต
สิ่งมีชีวิตประกอบด้วยพืชและสัตว์ สิ่งมีชีวิตสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ เนื่องจากมีการปรับตัวให้มีลักษณะที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม
การปรับตัวของพืช
พืชเป็นสิ่งมีชีวิต พืชแต่ละชนิดจะเจริญเติบโตได้ดีในที่ต่าง ๆ กัน พืชบางชนิดเจริญเติบโตได้ดีบนบก เช่น มะม่วง กุหลาบ เข็ม พืชบางชนิดเจริญเติบโตได้ดีในน้ำ เช่น บัว จอก แหน พืชบางชนิดเติบโตได้ดีในที่แห้งแล้ง เช่น กระบองเพชร ดังนั้น ถ้านำพืชมาปลูกในที่ที่ไม่เหมาะสม พืชอาจจะเจริญเติบโตได้ไม่สมบูรณ์ หรืออาจตายได้
การปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม เป็นการทำตัวให้กลมกลืนหรือจัดตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ที่แปลกไปจากสิ่งแวดล้อมเดิม เพื่อช่วยให้สิ่งมีชีวิตรอดพ้นจากศัตรูและอันตรายต่าง ๆ สิ่งมีชีวิตใดที่ไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ก็จะถูกศัตรูรบกวนหรือล้มตายและสูญพันธุ์
ในที่แห้งแล้ง พืชปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม โดยมีขี้ผึ้งเคลือบอยู่ที่ใบและลำต้น พืชที่อาศัยอยู่ในน้ำมักมีลำต้นอวบ เช่น ผักตบชวา หรือมีส่วนที่ช่วยให้พืชลอยน้ำได้ เช่น ผักกระเฉดมีนวมหุ้ม
- นักเรียนแสดงความคิดเห็นก่อนทำกิจกรรม โดยร่วมกันตอบคำถามก่อนทำกิจกรรม ดังนี้
- กิจกรรมนี้ต้องการศึกษาเรื่องอะไร
- นักเรียนวิเคราะห์ และอภิปรายผลการทำกิจกรรมโดยร่วมกันตอบคำถาม หลังทำกิจกรรม ดังนี้
- ฟองนํ้าในจานพลาสติกใบใดที่อุ้มนํ้าได้มากกว่าหรือสูญเสียนํ้าน้อยที่สุด เพราะเหตุใด
- เพราะเหตุใด จึงตัดถุงพลาสติกใสให้เป็นรอยขาด
- ฟองนํ้าในจานพลาสติกใบใดที่เปรียบได้กับใบพืชที่มีขี้ผึ้งเคลือบอยู่
- สรุปผลการทดลองได้ว่าอย่างไร
- ใบพืชที่มีขี้ผึ้งเคลือบอยู่จะเก็บน้ำได้มากกว่าใบพืชที่ไม่มีขี้ผึ้งเคลือบอยู่หรือไม่
- ใบพืชที่มีขี้ผึ้งเคลือบอยู่ช่วยทำให้พืชปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งได้อย่างไร
สรุปสิ่งที่เข้าใจเป็นความรู้
ฟองนํ้าที่มีถุงพลาสติกใสหุ้มจะชุ่มนํ้า ส่วนฟองนํ้าที่ไม่มีถุงพลาสติกใสหุ้มจะแห้งอย่างรวดเร็วเปรียบเหมือนใบพืชที่ขึ้นอยู่ในทะเลทรายจะมีขี้ผึ้งเคลือบเพื่อป้องกันการสูญเสียนํ้าให้กับสิ่งแวดล้อมทำให้ใบพืชเก็บรักษานํ้าไว้ได้
ความรู้เพิ่มเติม
พืชสามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมได้ การปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมเป็นลักษณะสำคัญอย่างหนึ่งของสิ่งมีชีวิตที่จะสามารถดำรงชีวิตอยู่ต่อไปได้ยาวนาน ในสภาพแวดล้อมหนึ่ง ๆ การปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมอาจเป็นไปในด้านการปรับตัว ในทางสรีรวิทยา เช่น ต้นกระบองเพชรอยู่ได้ดีในทะเลทราย
การที่สิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดจะดำรงชีวิตอยู่ได้ดีในสภาวะแวดล้อมหนึ่งนั้นย่อมต้องมีการปรับตัวที่สอดคล้องกันในหลาย ๆ ด้านในด้านที่จะได้ผลที่ดีที่สุด
การตอบสนองของพืชแสดงออกด้วยการเคลื่อนไหวอันเนื่องมาจากการเจริญซึ่งเป็นไปอย่างช้า ๆ ส่วนมากเห็นไม่ชัดเจน และมีแบบแผนคล้ายคลึงกันแม้ในพืชต่างชนิดกัน เช่น การเอนเข้าหาแสงสว่างของพืช การเจริญของรากเข้าหาแรงโน้มถ่วงของโลก การเจริญของลำต้นหนีแรงดึงดูดของโลก การตอบสนองที่เห็นได้ชัดเจน ได้แก่ การหุบใบของต้นไมยราบหรือต้นหยาดน้ำค้าง การตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมในพืชแบ่งได้เป็น 2 ประการ คือ
1. การตอบสนองอันเนื่องมาจากการเติบโต ซึ่งเกิดจากความแตกต่างในอัตราการยืดของเซลล์ลำต้นในแต่ละด้าน
2. การตอบสนองที่ไม่เกี่ยวกับการเติบโต ซึ่งเกิดเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงความเต่งของเซลล์ การตอบสนองแบบนี้มักจะเกิดขึ้นหลังการเติบโตเต็มที่แล้ว
การตอบสนองอันเนื่องจากการเติบโต เกิดจากความแตกต่างในอัตราการยืดตัวของเซลล์ในแต่ละด้าน นอกจากการเอนเข้าหาแสงสว่างของพืชกับการเจริญเข้าหาแรงดึงดูดของโลก การโค้งลงของก้านใบ เกิดจากเซลล์ทางด้านบนของก้านใบขยายตัวเร็วกว่าเซลล์ทางด้านล่าง การทำมุมของกิ่งกับลำต้น เพื่อให้เกิดทรงพุ่มต่าง ๆ ของต้นไม้ที่ขึ้นอยู่ในแต่ละท้องถิ่นก็จัดเป็นการตอบสนองสภาพแวดล้อม เพื่อการเจริญของพืช
สำหรับการตอบสนองสภาพแวดล้อมที่ไม่เกี่ยวกับการเติบโตของพืชนั้น มักจะพบอยู่ทั่ว ๆ ไป เช่น การหุบของใบไมยราบ หรือใบหยาดน้ำค้างในเวลากลางคืนและบานในเวลากลางวัน ในกรณีหุบและบานของใบไมยราบนี้ อาจเป็นผลการเปลี่ยนแปลงความดันของสารละลายในเซลล์ของใบ ซึ่งตอบสนองต่อแสง ถ้าความดันของสารในเซลล์ของใบสูง เซลล์ก็เต่งทำให้ใบบาน ดอกบานเย็น ที่บานในช่วงเวลาเย็น การบานของพืชตระกูลถั่วในช่วงที่มีแสงแดด และหุบในเวลาที่ความเข้มของแสงจางลงหรือเวลามืด ก็เป็นการตอบสนองการเปลี่ยนแปลงความเข้มของแสงจะเห็นได้ว่า การตอบสนองของพืชจะเกิดขึ้นเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงในสภาพแวดล้อม เช่น ความเข้มของแสง แรงดึงดูดของโลกและอื่น ๆ
Leave a Reply