ครูออฟ
1.1.1 ความหมายและความสำคัญของประเพณีและวัฒนธรรมไทย ป.3
วันสำคัญ เป็นวันที่เกิดเหตุการณ์สำคัญ ๆ ที่เกิดขึ้น และเพื่อเป็นการระลึกถึงความสำคัญของวันนั้น ๆ
รัฐ ชุมชน หรือหน่วยงาน ก็จะมีการจัดให้มีพิธีการหรือกิจกรรมต่าง ๆ ขึ้น เพื่อให้ประชาชน
หรือคนในสังคมได้ตระหนักและรำลึกถึงเหตุการณ์สำคัญนั้นด้วยความภาคภูมิใจและยึดมั่นในความดีงาม
3.1.2 คำสั่งควบคุมการทำงานของบอร์ด KidsBright
คำสั่งควบคุมการทำงานของบอร์ด KidBright ในรูปของบล็อก มีอยู่ 11 ส่วน ประกอบด้วย 1. พื้นฐาน (Basic Tab), 2. คณิตศาสตร์ (Math Tab), 3. ตรรกะ (Logic Tab), 4. วนรอบ (Loop Tab), 5. รอ (Wait Tab), 6. เสียงดนตรี (Music Tab),7. เซนเซอร์ (Sendor Tab), 8. เวลา (Real-Time Clock Tab), 9. ไอโอ (Comm Tab),10. ขั้นสูง (Advance Tab) และ 11. ไอโอที (Tab)
3.1.1 รู้จักกับโปรแกรมสร้างชุดคำสั่ง KidBright
โปรแกรมสร้างชุดคำสั่ง KidBright IDE เป็นโปรแกรมที่ใช้สร้างชุดคำสั่งโดยใช้ Block Based Programming ซึ่งสามารถลากบล็อกชุดคำสั่ง มาเรียงต่อกันเพื่อควบคุมให้บอร์ด KidBright ทำงานตามลำดับที่กำหนด จากนั้น KidBright IDE จะทำการ Compile ชุดคำสั่งเป็น Code ที่เหมาะสม และส่งไปยังบอร์ด เมื่อบอร์ดได้รับคำสั่งจะทำงานตามขั้นตอนที่ชุดคำสั่งกำหนดไว้
2.1.4 เซนเซอร์และการใช้งาน
ในระบบสมองกลฝังตัว เซนเซอร์ คืออุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ตรวจวัดปริมาณทางกายภาพต่าง ๆ เช่น อุณหภูมิ แสง เสียง การสัมผัส เป็นต้น และแปลงเป็นสัญญาณทางไฟฟ้าเพื่อใช้ตรวจสอบเงื่อนไขสำหรับการสั่งงานส่วนควบคุมแบบอัติโนมัติ หรือตรวจวัดข้อมูลต่าง ๆ สำหรับการเก็บบันทึกข้อมูล
สำหรับบอร์ด KidBright มีเซนเซอร์ที่ติดตั้งมาบนบอร์ดพร้อมใช้งาน ประกอบด้วย เซนเซอร์วัดระดับ
ความเข้มแสง เซนเซอร์วัดอุณหภูมิ และสวิตช์กดติดปล่อยดับ
2.1.2 การทำงานขององค์ประกอบต่างๆในบอร์ด KidBright
การทำงานขององค์ประกอบต่างๆ ในบอร์ด KidBright ประกอบด้วย
1. เซนเซอร์วัดอุณหภูมิ เซนเซอร์วัดอุณหภูมิ ใช้วัดค่าอุณหภูมิที่อยู่รอบๆ บอร์ด KidBright
2. จอแสดงผล LED ใช้แสดงผลตัวอักษร ข้อความ หรือ รูปภาพ
3. เซนเซอร์วัดแสง ใช้วัดปริมาณแสงที่อยู่รอบ ๆ บอร์ด KidBright
4. ช่องเสียบสายไมโครยูเอสบี ใช้เป็นช่องรับกระแสไฟฟ้าจากแหล่งจ่ายกระแสไฟฟ้า และรับข้อมูลจากคอมพิวเตอร์
5. ลำโพง เป็นแหล่งกำเนิดเสียงให้กับบอร์ด KidBright
6. คอนเนกเตอร์ เป็นช่องทางในการเชื่อมต่อกับบอร์ดเสริมของ KidBright
7. พอร์ตยูเอสบี ใช้ควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ไฟฟ้าแบบยูเอสบี
8. สวิตช์ 1 ใช้ควบคุมการทำงานของบอร์ด KidBright
9. สวิตช์ 2 ใช้ควบคุมการทำงานของบอร์ด KidBright
10. สวิตช์รีเซ็ต ใช้รีเซ็ตเพื่อเริ่มต้นการทำงานใหม่ของบอร์ด
11. ช่องสัญญาณอินพุต 1-4 ใช้รับค่าสัญญาณอินพุตแบบดิจิทัลจากอุปกรณ์ภายนอกที่มาเชื่อมต่อ
12. ช่อสัญญาณเอาต์พุต 1-2 ใช้ส่งค่าเอาต์พุตแบบดิจิทัลจากบอร์ด KidBright ไปยังอุปกรณ์ภายนอกที่มาเชื่อมต่อ
13. นาฬิกาเรียลไทม์ ใช้เป็นอุปกรณ์บอกเวลาของบอร์ด KidBright ถ้าใส่แบตเตอรี่จะทำให้นาฬิกาเรียลไทม์เดินได้ตรงเวลา แม้ไม่มีการจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับบอร์ด KidBright
14. รางใส่แบตเตอรี่ ใส่แบตเตอรี่สำหรับเป็นแหล่งจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับนาฬิกาเรียลไทม์
15. ส่วนควบคุมการทำงานของบอร์ด KidBright บอร์ด KidBright ถูกควบคุมการทำงานโดยไมโครคอนโทรลเลอร์ ESP32 ซึ่งมีฟังก์ชันการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่าน Wifi และ Bluetooth
2.1.1 องค์ประกอบของบอร์ด Kidbright
บอร์ด KidBright เป็นบอร์ดสมองกลฝังตัว (Embeded board) สามารถใช้เป็นอุปกรณ์ควบคุมขนาดเล็กที่ประกอบด้วย ไมโครคอนโทรลเลอร์ (Microcontroller) จอแสดงผล นาฬิกา ลำโพง และเซนเซอร์ต่าง ๆ
โดยบอร์ด KidBright จะทำงานตามคำสั่งที่ผู้ใช้สร้างขึ้นผ่านโปรแกรมสร้างชุดคำสั่งแบบบล็อก (Block-based programing)
1.1.4 ภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์
ภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ (Computer Programming Language) คือ ชุดคำสั่งที่นักเขียนโปรแกรม หรือโปรแกรมเมอร์ (Programmer) เขียนโปรแกรมซอร์สโค้ด (Source Code) ที่ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์
ของภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เพื่อให้สามารถติดต่อสื่อสาร ควบคุมการรับส่งข้อมูล และสั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามที่นักเขียนโปรแกรมต้องการได้
การเขียนโปรแกรมแบบ Block-based programming คือ การเขียนโปรแกรมในลักษณะการนำ Block ของคำสั่งมาต่อๆ กัน คล้ายการต่อจิ๊กซอว์ โดยใชวิธีการลากวาง (Drag and Drop) เพื่อให้ง่ายต่อการเขียนโปรแกรมสำหรับผู้เริ่มต้น
1.1.3 โครงสร้างผังงาน
การกำหนดโครงสร้างของการเขียนผังงาน เพื่อนำไปใช้ในการเขียนโปรแกรม เป็นการกำหนดขั้นตอน
ให้โปรแกรมทำงาน โดยมีโครงสร้างการควบคุมพื้นฐาน 3 หลักการ ดังนี้
1. โครงสร้างแบบลำดับ (Sequence Structure)
2. โครงสร้างแบบเลือกทำ หรือมีเงื่อนไข (Selection Structure)
3. โครงสร้างแบบการทำซ้ำ (Repetition Structure)
ซึ่ง การกำหนดโครงสร้างของผังงาน จะช่วยให้การทำงานเป็นขั้นตอนตามลำดับ สามารถเข้าใจถึงความต้องการนำไปสู่การแก้ไขที่ตรงจุดได้ ช่วยลดข้อผิดพลาดและสามารถตรวจสอบข้อผิดพลาดได้ง่าย และยังช่วยพัฒนาทักษะที่ดีในการวางแผน การวิเคราะห์ปัญหาในการทำงาน และปัญหาที่พบเจอในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย